Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 96
ฮาวเหยียนเชอขับรถพาหญิงสาวในชุดเดรสสีม่วงมาที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งด้วยตัวเอง
งานเลี้ยงวันนี้จัดโดยบริษัทเจ๋า
เมื่อรถของชายหนุ่มขับเข้ามาที่หน้าทางเข้าหลักของโรงแรม
ฮาวเหยียนเชอลงจากรถและโอบเอวกุนกุนเข้ามางาน
แขกเหรื่อที่กำลังจะเดินเข้างานต่างพากันหยุดนิ่ง
ส่วนกุนกุนเองก็ตื่นตาตื่นใจไปกับผู้คนรอบตัวที่สวมชุดราตรีและสูทราคาแพง
พวกเขาดูหรูหราและเปล่งประกายในสายตาของเธอโดยหารู้ไม่ว่าตัวเธอเองนั่นล่ะที่โดดเด่นกว่าคนอื่นในงาน
กลับกันสายตาของทุกคนที่จ้องมาที่เธอและฮาวเหยียนเชอทันทีที่ก้าวขาลงจากรถทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา
ฮาวเหยียนเชอเองก็รู้ว่ากุนกุนไม่คุ้นชินกับการถูกผู้คนมากมายมองอย่างไม่ละสายตาด้วยท่าทางตกตะลึง
ชายหนุ่มในสูทหรูที่เข้ารูปก็ดึงเธอเข้ามาแนบชิดกับลำตัวด้านข้างเขามากขึ้นและกดศีรษะเธอเบาๆให้พิงเข้ามาที่หน้าอกของเขา
บรรดาแขกเหรื่อต่างเซอร์ไพรส์มองเหตุการณ์อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
นอกจากฮาวเหยียนเชอจะมาปรากฏตัวในงานและรับคำเชิญจาก เจ๋าหลงเฟิน เจ้าของงานแล้วพวกเขายังต้องแปลกใจมากขึ้นไปอีกเพราะฮาวเหยียนเชอมาพร้อมกับแฟนสาวแถมยังแสดงท่าทีปกป้องออกมาอย่างชัดเจนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
กุนกุนซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเขามากขึ้น
เงยหน้ามองร่างสูงที่เป็นที่พักพิงให้เธอและถามว่า
“ทำไมคุณพาฉันมาด้วยคะเชอ
ปกติแล้วคุณไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงเป็นทางการแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ
อีกอย่างฉันไม่ชอบสายตาของพวกเขาเลย ฉันรู้สึกไม่ชอบที่นี่แล้วล่ะค่ะ”
ฮาวเหยียนเชอไม่ได้สนใจกับสายตาทุกคู่ที่จ้องมามอง
เขาก้มลงหอมแก้มเธอและกระซิบข้างหู
“เดี๋ยวกลับบ้านไปฉันจะให้เธอเลือกกินขนมหวานได้ 1 อย่าง” ใจจริงแล้วเขาอยากจะทำมากกว่าหอมแก้มด้วยซ้ำแต่ก็รู้ว่าคงจะไม่ดีต่อเธอสักเท่าไหร่
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นมีแขกบางคนที่กล้าเข้ามาทักทายและแสดงความยินดีฮาวเหยียนเชอกับกุนกุน
ทั้งคู่ต้องยืนทักทายและพูดคุยกับผู้คนที่หมุนเวียนกันเข้ามาอยู่ครู่ใหญ่
บางคนอยากเห็นกุนกุนใกล้ๆว่าสาวน้อยคนนี้มีความสามารถพิเศษอะไรที่มัดใจคนเย็นชาแบบฮาวเหยียนเชอได้
จนหญิงสาวที่ยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงมานานต้องสะกิดและเอ่ยปากว่า
“ฉันอยากเข้าห้องน้ำค่ะ”
“อืม...เธอรู้ทางไปห้องน้ำมั้ย?” เขาตอบพลางลูบผมเธอด้วยท่าทางอ่อนโยนต่อหน้าทุกคนจนผู้คนที่จดจ้องอยู่ถึงกับตาลุกวาวและบางคนถึงกับจดจำสีหน้าท่าทางที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมุมแบบนี้ของ
ฮาวเหยียนเชอเอาไว้
“รู้ค่ะ ฉันเคยมาที่นี่กับคุณพ่อ”
“งั้นไปเถอะ” เขาตบหลังเธอเบาๆ
หลังจากที่กุนกุนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
สายตาของฮาวเหยียนเชอก็เปลี่ยนมาเย็นชาเหมือนเดิมแถมยังมีไอเย็นส่งออกมาจากร่าง
ทำให้ผู้ร่วมงานที่ตั้งท่าจะเข้ามาทักทายผู้บริหารบริษัทฮาวเหยียนต้องถอยหลังกรูดแตกกระจายไปคนละทิศละทาง
ฮาวเหยียนเชอเบนหน้าเอื่อยๆไปทางที่มีชายหนุ่มสีดำสนิทของน้องชายเขา ฮาวเหยียนหมิง
คนเป็นน้องชายเดินตรงเข้ามาทันทีเมื่อเห็นว่ากุนกุนแยกตัวออกไปและพี่ชายของเขาก็จัดการกับพวกเห็บไรออกไปหมดแล้ว
“ทำไมนายยังไม่ตาย” คำทักทายคพแรกของพี่ชายทำให้ฮาวเหยียนหมิงหัวเราะออกมา
“ถ้าผมตายพี่ต้องเสียใจแน่ๆ ฮ่าฮ่า”
“ถ้างั้นนายช่วยไปหาที่ตายไกลๆฉันด้วยนะ
อย่ามารกหูรกตาฉันแล้วกัน”
“ท่านประธานฮาวนี่เย็นชาได้เสมอต้นเสมอปลายเลยนะครับ
แหม ช่างแตกต่างจากตอนที่มีสาวสวยยืนเคียงข้างด้วยจริงๆ
ถ้าพี่ไม่ต้องการผมจริงๆแล้วมางานทำไมกัน” ฮาวเหยียนหมิงยักคิ้วยียวนกลับไป
“ฉันมาที่นี่เพราะอยากรู้ว่านายตายไปหรือยัง
แต่ดูเหมือนจะยังสินะเพราะฉันยังเห็นคนที่นายเกลียดยังไม่ตายง่ายๆเหมือนกัน”
“ผมกลับมาแล้ว...” ฮาวเหยียนหมิงตอบสั้นๆสบตาพี่ชายนิดนึงก่อนจะยกแก้วไวน์ของตัวเองชนกับพี่ชายด้วยท่าทางมั่นใจ
ตัดกลับมาที่กุนกุนเธอใช้เวลาเข้าห้องน้ำค่อนข้างนานเพราะชุดของเธอและอาการเมื่อยขาที่ต้องทรงตัวอยู่บนรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน
แต่เมื่อเดินออกมาก็ดีใจที่เห็นหลัวฉิงฉิงอยู่ในชุดเดรสสวยเหมือนกัน
กุนกุนตั้งใจเดินไปหาเพื่อนของเธอ แต่ก็ต้องชะงักเท้าไว้เพราะได้ยินเสียงแหลมบวกด้วยคำด่าทออย่างหยาบคายจากผู้หญิงอีกคนที่แต่งตัวจัดจ้านมากกว่าพวกเธอซะอีก
“หลิวฉิงฉิง ยัยโสเภณี
ฉันจะฆ่าแกถ้ายังทำตัวยั่วยวนผู้ชายในงานทั่วไปหมด แกมันนังผู้หญิงชั่นต่ำ”
“หยูเฉิงซู
นี่ช่างเป็นชื่อที่ฟังดูดีจริงๆนะ แต่น่าเสียดายมันไม่ควรจะเป็นชื่อของเธอเลย
ฉันไม่แปลกใจว่าทำไมเจี้ยนซี่ถึงเลือกฉันแทนที่จะเป็นเธอ
นี่ถามไรหน่อยสิที่บ้านไม่มีกระจกส่องสารรูปตัวเองก่อนที่จะมาด่าคนอื่นหรือไง
ความจริงฉันควรจะต้องขอบคุณเธอเหมือนกันนะเพราะเธอทำให้ฉันดูเด่นขึ้นมาทันทีเวลายืนอยู่ข้างเธอ”
คำประณามชุดใหญ่ของฉิงฉิงทำให้หยูเฉิงซูหน้าชา
ตัวเธอเองก็รู้ว่าไม่สามารถด่าสู้กับฉิงฉิงได้เลยเงื้อมือตั้งใจจะตบหน้าหลิวฉิงฉิงฉาดใหญ่
แต่จู่ๆก็มีหญิงสาวในชุดเดรสสีม่วงเดินเข้ามาขวางทำให้เธอต้องชะงักมือไว้
“ถอยออกไปให้ห่างจากฉิงฉิงนะ” หยวนกุนกุนขึ้นเสียงกลับไป หลัวฉิงฉิงที่ยืนอยู่ด้านหลังจำได้ทันทีว่าเป็นกุนกุนเมื่อเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างของผู้พิทักษ์ตัวน้อยของเธอ
“หลบไปยัยบ้าอยากโดนดีด้วยหรือไง”
หยูเฉิงซูสติแตกหล่อนเดินไปคว้าผมของกุนกุนไว้
“โอ๊ย!! ปล่อยผมฉันนะ”
ฉิงฉิงตาเป็นประกายวาวด้วยความโกรธ
เธอก้าวขาออกไปตั้งใจจะสั่งสอนให้ผู้หญิงบ้าคนนี้เสียใจที่กล้าทำร้ายกุนกุนของเธอ
แต่ทันใดนั้นก็มีเงาของผู้ชายคนนึงแทรกเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
ร่างนั้นเตะหยูเฉิงซูกระเด็นจนกระอักเลือดกองอยู่ที่พื้นและดึงกุนกุนเข้ามาในอ้อมกอด
กุนกุนรู้สึกคุ้นเคยกับอ้อมกอดนี้เลยเงยหน้าขึ้นมาเห็นผู้ชายที่ช่วยเธอไว้ก็เรียกชื่อออกมา
“เชอ....” จากนั้นก็กอดเขาแน่นและร้องไห้ออกมา
ฮาวเหยียนเชอลูบผมเธอพร้อมกับจ้องไปที่หยูเฉิงซูด้วยสายตาอาฆาต
หลัวฉิงฉิงที่ได้แต่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในไม่กี่วินาทีตั้งแต่ภาพที่หยูเฉิงซูโดนเตะและนอนแบ๊บพยายามยันตัวขึ้นและเช็ดเลือดออกจากปากโดยไม่ได้ทำอะไรเลย
เธอได้แต่คิดว่าผู้ชายของหยวนกุนกุนช่างเป็นคนที่ไม่มีความปราณเลยแม้แต่น้อย
“เชอ..ฮือ..ผู้หญิงคนนั้นด่าฉิงฉิงอย่างร้ายกาจแถมยังทำร้ายฉันอีกด้วย”
“ไม่เป็นไรๆ เธอปลอดภัยแล้ว” ฮาวเหยียนเชอลูบหลังและเช็ดน้ำตาของเธออย่างอ่อนโยน
ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างกระจายข่าวเรื่องฮาวเหยียนเชอปกป้องแฟนสาวของเขาออกไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าไฟไหม้
คืนนี้กลายเป็นว่าฮาวเหยียนเชอแย่งซีนเจ๋าหลงเฟินเจ้าของงานไปโดยปริยาย
กุนกุนหันไปมองเพื่อนของเธอที่ยืนส่งยิ้มและเดินเข้ามาใกล้
เธอเลยสบตากับฮาวเหยียนเชอเพื่อบอกให้เขาปล่อยเธอจากอ้อมกอดแน่น
กุนกุนถึงได้มีโอกาสเดินไปหาฉิงฉิงได้
“ฉิงฉิง เธอโอเคมั้ย เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“อย่าห่วงเลยจ๊ะ ขอบใจเธอมากนะกุนกุน”
บรรดาแขกที่ได้ยินต่างพากันคิดว่าคนที่น่าห่วงและควรจะได้รับการปกป้องควรจะเป็นกุนกุนมากกว่าหรือเปล่า
“เธอเคยช่วยฉันที่โรงเรียนแต่ฉันยังไม่มีโอกาศได้ตอบแทนเธอเลย”
“คืนนี้เธอช่วยฉันแล้วล่ะ” ฉิงฉิงลูบผมและจับแก้มนุ่มเบาๆ
ฮาวเหยียนเชอไม่ได้สนใจคนอื่นมากกว่าการที่เขาต้องการพาเธอกลับบ้านเลยเดินเข้าไปแตะเอวเธอ
“กลับบ้านกันได้แล้ว”
P.S. กุนกุนช่างมีพรสวรรค์ในการดูดเรื่องเข้าหาตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น