Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
Credit of photos and this story
belongs to the owner
บทที่ 130 – 3
ปีผ่านไป
กุนกุนเดินไปนั่งลงบนโซฟารับแขกที่มีโต๊ะตัวเล็กตั้งอยู่พร้อมกับอาหารฝีมือป้าเฉิน
ฮาวเหยียนเชอเดินไปหยิบโทรศัพท์เครื่องนั้นมา....
“นั่นมันของฉันนะคะ”
“อะไร? อะไรของเธอ?”
กุนกุนได้แต่เงียบมองตามสามีที่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ
ทำให้กุนกุนถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“แล้วทำไมไม่กินข้าวซะทีล่ะ?” ฮาวเหยียนเหลือบตามองภรรยา
คนตัวเล็กเลยหยิบตะเกียบและถ้วยข้าวขึ้นมา
เลือกคีบเนื้อขึ้นมาชิ้นนึงจากจากอาหารตรงหน้าเข้าปาก
ส่วนคนเป็นสามีก็เดินมานั่งลงข้างๆพร้อมกับหยิบอุปกรณ์สำหรับทานข้าวขึ้นมาอีกชุดเพื่อนั่งทานกับเธอด้วย
ทั้งคู่นั่งทานอาหารมื้อแรกของวันด้วยกันเงียบๆ แต่สายตาของกุนกุนก็ยังแอบชำเลืองมองโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เป็นระยะ
จนกระทั่งฮาวเหยียนเชอเริ่มบทสนทนาขึ้นมาว่า
“ไปอินโดนีเซียกันเถอะ”
“ห๊ะ?” กุนกุนหันขวับไปทางต้นเสียงและก็ต้องสบสายตากับคุณสามีที่มองเธออยู่ด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่
“เอ่อ...คุณกำลังจะบอกว่า
พวกเราจะไปฮันนีมูนกันที่อินโดนีเซียเหรอคะ?”
“แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ?”
“ก็ไหนคุณบอกเมื่อกี้ว่าเราจะไม่ไปฮันนีมูนไงคะ?”
หลังจากตอบคำถามเขา เธอก็ต้องรีบหลุบสายตาฟาดฟันจากเขาเพราะคำตอบของเธอยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าหู
เธอเลยทำได้เพียงคีบอาหารเข้าปากต่อไป
เมื่อเห็นท่าทางน่าหมั่นเขี้ยวของกุนกุน
ฮาวเหยียนเชอก็ทำได้เพียงแค่นเสียงฮึในลำคอเท่านั้น
เขาแอบคิดว่าคงจะไม่มีประโยชน์ที่จะปฏิบัติกับเธอดีๆ
เมื่อเธอไม่เคยเห็นและพอใจความพยายามของเขาเลย ฝ่ายกุนกุนนั้นก็แอบมองคนข้างๆ
และยิ้มออกมาเมื่อคิดไปว่าเธออยู่กับเขาด้วยกันมาหลายเดือนก็จริงแต่นี่เป็นวันแรกที่ทั้งคู่ทานข้าวด้วยกันในฐานะสามีภรรยา
* * *
3 ปีผ่านไป (ไวเหมือนนิยาย)
เวลาที่ผ่านไปก็ควรจะมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นไม่เว้นคู่ของฮาวเหยียนเชอและกุนกุน
วันหนึ่งที่คฤหาสน์ตระกูลฮาว
บรรดาพ่อแม่ของหนุ่มสาวมารวมตัวพูดคุยกับลูกสาวและลูกเขย
แต่แล้วเสียงดุดันน่ากลัวของฮาวเหยียนเชอก็แผดขึ้นดังลั่นตัวตึก
“หยวน –กุน-กุน !!!!” ชายหนุ่มเรียกชื่อภรรยาเสียงแข็ง ในขณะที่หญิงสาวผู้ซึ่งกำลังดื่มชากับพ่อแม่ตัวเองและของสามีอย่างสบายใจในห้องรับแขกถึงกับสะดุ้งเพราะเสียงของเขา
และไม่กี่วินาทีต่อมาตัวเป็นๆก็เดินหน้าทะมึงขึงขังก้าวขาเข้ามาอย่างรวดเร็ว
กุนกุนขยับตัวไปกอดหยวนติงหลิวผู้เป็นพ่อทันทีเพราะรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิตของตัวเอง
“มะ มะ มีอะไรเหรอคะ?”
“เสี่ยวเชอ ทำไมลูกต้องเสียงดังกับน้องด้วยล่ะ
ลูกทำให้น้องกลัวนะ” ฉิวลี่หลัวปรามลูกชายบ้าง
ฮาวเหยียนเชอกระแทกกล่องยาที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาโกรธลงบนโต๊ะกาแฟ
ก่อนจะข่มอารมณ์เปิดปากถามภรรยาตัวน้อยว่า
“เธอกล้ากินยาพวกนี้ได้ยังไง?” สีหน้าของเขายิ่งเครียดมากขึ้นเมื่อเหลือบมองดูยากล่องนั้น
“ฉัน...ฉัน....” หลังจากแต่งงานกันมา
3 ปี เธอเข้าใจได้ว่าสามีของเธอมีอารมณ์อยู่ 2 แบบ หนึ่งคือความเย็นชา นิ่งเฉย
และสองคือ การโมโหร้าย และตอนนี้เป็นไปได้ว่าเขากำลังโมโหสุดๆเลยด้วย
“มานี่...” ฮาวเหยียนเชอจ้องตากุนกุนและเรียกเธอเสียงแข็ง
“คุณพ่อคะ........” กุนกุนรีบหันไปขอความช่วยเหลือจากบิดาทันที
แต่ครั้งนี้หยวนติงหลิวไม่เข้าข้างลูกสาวกลับเห็นด้วยที่ลูกเขยโมโห
“คุณแม่....” เมื่อเห็นว่าพ่อไม่ช่วยเธอแน่ๆ
กุนกุนเลยหันไปหามารดา ส่งสายตาขอความช่วยเหลือ
“กุนกุน แม่ว่า..” แม้แต่เฟิงตูตูก็ยังพูดไม่ออก
เมื่อเห็นสายตาของเหล่าพ่อบ้านในห้องยิ่งทำให้เธอรู้ว่าไม่ควรจะพูดอะไรออกไป
ฮาวเหยียนเชอไม่รออะไรอีก เขาเดินเข้าไปจับแขนเธอและออกแรงเล็กน้อยดึงเธอขึ้นมา
“ไม่มีใครช่วยเธอได้แล้วล่ะ ฮึ!!”
“คุณแม่ขา....” กุนกุนดิ้นรนครั้งสุดท้าย
เธอหันหน้าไปหาฉิวลี่หลัว
ซึ่งแม่สามีก็รีบกระแอมและส่งวิงค์ขยิบตาให้เธอเป็นสัญญาณว่าเธอนี่ละช่วยลูกสะใภ้เอง
“กุนกุน
มีใครบอกให้เธอกินยาพวกนี้หรือเปล่าจ๊ะ?”
“ไม่มีค่ะ แต่ว่า....”
“เธอ ตาย แน่” แต่ดูเหมือนคำถามของแม่สามีจะสร้างปัญหาให้กับกุนกุนซะมากกว่า
ฮาวเหยียนเชอจับเธออุ้มพาดบ่าและก้าวขาออกไปห้องตรงไปที่ห้องนอนทันที
โดยมีกุนกุนส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือไปตลอดทาง
“ฉันไม่อยากไป ฮืออ คุณพ่อ คุณแม่ ช่วยหนูด้วย”
“กุนกุน...” เฟิงตูตูและฉิวลี่หลัวพูดขึ้นมาพร้อมกัน
ทั้งคู่ลุกขึ้นตั้งใจจะเดินตามไปช่วย แต่สามีมือไวของพวกเธอก็ดึงภรรยาของตัวเองไว้ได้ทันแรงดึงของพวกเขาทำให้ทั้งสองต้องกลับมานั่งแปะบนตักของสามี
“นี่คุณจะทำอะไร ดูสิว่า
เสี่ยวเชอโกรธมากแค่ไหน ถ้าเขาทำร้ายกุนกุนขึ้นมาล่ะ”
“แล้วเธอคิดว่าจะไปห้ามลูกชายเธอได้หรือไง?”
ฮาวเหยียนเชวียถามแบบใจเย็น
“ฉันทำไม่ได้แต่คุณทำได้นี่คะ” ฉิวลี่หลัวรีบบอกสามีหวังให้เขาไปห้ามลูกชายไม่ให้ก่อเรื่อง
ฮาวเหยียนเชวียหยิบกล่องยาเจ้าปัญหานั้นขึ้นมา
ก็ต้องพ่นลมหายใจแรงๆออกมา เพราะความโกรธด้วยอีกคน
“ทำไมคุณต้องเข้าข้างลูกชายเราล่ะ
คุณควรจะเป็นคนกลางไม่ใช่เหรอไง”
“ก็ขนาดพ่อตาของลูกชายเรายังไม่ออกความเห็นอะไร
พวกเราจะตื่นตูมไปทำไม?”
“ครั้งนี้กุนกุนจะต้องได้รับบทลงโทษ คราวหน้าจะได้ไม่กล้าทำอีก”
ฉิวลี่หลัวแทบไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายสองคนจะมีความเห็นตรงกันได้ขนาดนี้
“ติงหลิวคะ...” เฟิงตูตูหันไปหาสามีที่ทำหน้าเครียดเช่นกัน
คิดว่าจะพูดให้เขาไปช่วยลูกสาวแต่....
“ถ้าคุณกล้าแอบกินยานี้
คุณจะมีชะตากรรมเดียวกันกับลูกสาวของเราแน่ๆ ผมรับรอง” หยวนติงหลิวเตือนภรรยา
มารดาของฮาวเหยียนเชอและกุนกุนเลยได้สบตากันเองอย่างเหนื่อยใจและพร้อมใจกันมองไปที่ชั้นสองของตึกก่อนจะถอนหายใจออกมา
P.S. งานจะเข้าอีกแล้ว กุนกุนเอ้ยยย 5555+
คนอ่านเรื่องนี้ต้องทำใจนะคะ อารมณ์นิยายสวิงยังกับไวกิ้ง 5555