Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 90 (เรียกชื่อฉันสิ)
ร่างกายของชายหนุ่มเครียดและเกร็งกล้ามเนื้อขึ้นมา
เขาชำเลืองมองเธอที่กำลังพูดอยู่ที่แผ่นอกของเขาโดยไม่สังเกตถึงไอสังหารที่แผ่ออกมา
“แต่ว่าเขาเป็นพี่ชายของฉัน
ตั้งแต่เด็กเขาเป็นพี่ชายในอุดมคติของทุกคนถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ
แต่เขากลับใจดีกับฉันมาก สุภาพและน่ารักสำหรับฉันเสมอ
จู่ๆวันนี้เขากลับขอฉันแต่งงาน ทำไมเขาถึงมาขอให้ฉันแต่งงานกับเขาล่ะคะ”
ฮาวเหยียนเชอนิ่งเขาคาดหวังว่าจะได้ยินอะไรบางอย่างจากปากของเธอ
“เขาบอกว่า เขาจะรออีก 3
ปีถึงจะมาฟังคำตอบจากฉัน
ฉันเลยคิดว่าถ้าฉันไม่ได้กลับบ้านไปเขายังจะรอคำตอบจากฉันอีกมั้ย” เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาในที่สุด
“นายน้อยล่ะคะ
ถ้าฉันไม่อยู่คุณจะคิดถึงฉันบ้างมั้ยคะ”
ไม่มีคำตอบจากเขา
มีแต่จูบที่บดลงบนริมฝีปากแดงสดอย่างหนักหน่วง
เขาจูบเธอด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มีจนกุนกุนเผลอใช้แขนโอบรอบคอไว้
หญิงสาวรู้ตัวว่าไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้ชอบเขาได้แม้ว่าเขาจะทำร้ายจิตใจและรังแกเธอแค่ไหนก็ตาม
และนี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอจูบตอบกลับเขาไปนั่นยิ่งทำให้ความต้องการ
ความปรารถนาลุกโชนขึ้นมา
บวกกับความพอใจในปฏิกิริยาของเธอทำให้เขาครางเสียงต่ำในลำคอ ฮาวเหยียนเชอผลิกตัวกลับอยู่เหนือร่างกายของเธอ
ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกันในขณะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ก็ยังเชื่อมต่อกันอยู่
ฮาวเหยียนเชอตั้งใจเกี่ยวลิ้นเล็กของเธอและสอนให้เธอทำแบบเดียวกับเขาบ้าง
เสียงครางเริ่มดังมากขึ้น
จูบครั้งนี้ร้อนแรงตามอารมณ์ของชายหนุ่มจนกุนกุนต้องร้องขออากาศหายใจ
“อืม...นายน้อย..ขอฉันหายใจบ้าง....”
เธอประท้วงเสียงแผ่วเบา
เป็นเหตุให้ฮาวเหยียนเชอยอมถอนจูบออกมา
เขามองหน้านางฟ้าตัวน้อยตรงหน้า เธอหอบหายใจเขาหวังจะสูดอากาศเข้าเต็มปอดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทำให้ทรวงอกของเธอขยับขึ้นลงจนเสียดสีกับแผ่นหน้าอกของเขานั่นเหมือนเป็นเชื้อเพลิงให้ฮาวเหยียนเชอได้เป็นอย่างดี
แต่เขายอมหยุดและปล่อยให้เธอปรับลมหายใจจนกระทั่งกลับมาเป็นปกติ
ทั้งคู่สบตากันนิ่งไปสักพักก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้นมาว่า
“เรียกชื่อฉันสิ” เขาลูบเส้นผมของเธอด้วยความหลงใหล
แม้จะเป็นคำสั่งแต่ก็อ่อนหวานจนทำให้กุนกุนถึงกับละเมอเรียกชื่อตามที่เขาบอกออกมา
“ฮาวเหยียนเชอ” ช่วงเวลาที่อ่อนโยนที่หาได้ยากยิ่งของฮาวเหยียนเชอหายวับไปทันทีเมื่อได้ยินเธอเรียกชื่อเขา
มันถูกแทนที่ด้วยความต้องการที่เขาพยายามกดเก็บไว้
“ฉันเรียกชื่อคุณผิดเหรอคะ” เธอถามเมื่อเห็นว่าเขามองหน้าเธอนิ่งๆแล้วไม่ยอมพูดอะไรออกมา
“ฮาวเหยียนเชอ ไม่ใช่ชื่อของคุณหรือคะ”
“เรียกฉันว่า เชอ” เขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ นั่นยิ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์ขึ้นมากอีกหลายเท่า
“เชอ...” เสียงหวานของเธอที่เอ่ยเรียกชื่อเขาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีเป็นบ้า
ความอบอุ่นแล่นเข้ามาในหัวใจ เขาก้มลงแทะเล็มใบหูน้อยๆของเธอ
กุนกุนต้องย่นคอหนีการรุกรานของเขา
“นายน้อยคุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลยนะคะ
ถ้าฉันไม่อยู่แล้วคุณจะคิดถึงฉันมั้ย?”
“ไม่...” คำตอบส่วนทางกับเสียงแผ่วเบาที่กระซิบที่ข้างหูเธอ
แน่นอนว่าเขาจะไม่ต้องคิดถึงเธอเพราะจะไม่มีวันที่เขาจะปล่อยให้เธอไป
ร่างกายของกุนกุนต่อต้านขึ้นมาเมื่อคำตอบของเขาไม่เป็นที่พอใจ
“ต่อไปนี้เรียกฉันว่า เชอ” เขาสั่งเสียงเบาพร้อมกับเล่นเส้นผมนุ่มของเธอไปด้วย
ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งเวลาที่ได้จับผมนุ่มของเธอมันทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“เชอ”
“หืม?” เขาอมยิ้มเล็กๆเมื่อเธอเรียกชื่อเขา
“พรุ่งนี้ฉันจะได้กินของหวานแบบไหนเหรอคะ”
ฮาวเหยียนเชอถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ยินคำถามของเธอ
เขาหยิกก้นเธอก่อนจะสั่งว่า “นอนได้แล้ว” ฮาวเหยียนเชอผลิกตัวกลับไปนอนโดยมีกุนกุนนอนแนบอยู่บนหน้าอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ฮาวเหยียนเชอต้องอุ้มเธอไปที่ห้องอาหาร
สภาพของเธอพร้อมจะหลับได้ตลอดเวลา เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้เข้านอนก็ดึกมากแล้ว
“นายน้อย สวัสดีครับ” เจียทูและยี่ทูโค้งทำความเคารพและกล่าวทักทาย
ฮาวเหยียนเชอเดินผ่านคนทั้งสองไปนั่งประจำที่โดยมีกุนกุนนั่งสะลึมสะลือเอนตัวพิงเขาอยู่บนตัก
แต่พอเธอได้ยินเสียงของบอดี้การ์ดทั้งสองก็ลืมตาขึ้น
ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็หายง่วงเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นสภาพใบหน้าที่ยับเยินของคนทั้งคู่
“พี่เจียทู....พี่ยี่ทู...
หน้าของพี่...ทำไม...”
“อรุณสวัสดิ์กุนกุน” ทั้งสองกล่าวทักทายขึ้นมาพร้อมกัน
“เกิดอะไรขึ้นกับหน้าของพวกพี่คะ?”
ยี่ทู >>
พวกเราหกล้มหน้ากระแทกพื้น
เจียทู >>
พวกเราเดินชนกำแพง
บอดี้การ์ดทั้งสองหันหน้าเข้าหากันทันที
ทั้งคู่สบตากันด้วยความกังวล เหตุผลของทั้งคู่ทำให้กุนกุนงงยิ่งกว่าเดิม “หือ???อะไรนะคะ??”
ยี่ทู >>
พวกเราเดินชนกำแพง
เจียทู >>
พวกเราหกล้มหน้ากระแทกพื้น
ทันทีที่จบประโยคกุนกุนถึงกับเกาศีรษะของตัวเอง
นี่เธอยังไม่ตื่นดีหรือเปล่าถึงฟังพวกเขาไม่เข้าใจ
เธอหันหน้าไปขอความช่วยเหลือคนที่ทำตัวเป็นเก้าอี้ให้เธอ
“นายน้อยคะ...”
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ”
“เอ่อ...เชอ”
“อืม..ว่าไง” ฮาวเหยียนเชอพยักหน้ารับอย่างพอใจ
“พวกเขาจะโอเคมั้ยคะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เธอกระซิบที่ข้างหูเขา
“ประตูกระแทกหน้าพวกเขา” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่สนใจพลางหยิบ
แก้วนมร้อนขึ้นมาจิบและพอใจที่มันไม่ร้อนมาก เขาเลยยื่นแก้วนมส่งให้กุนกุน
“ประตูกระแทกงั้นเหรอคะ
แต่ทำไมแผลดูน่ากลัวขนาดนี้ละคะ” เธอรับแก้วนมมาดื่ม
สายตายังคงจับจ้องคนทั้งสองที่หน้าตายับจนดูไม่ได้
“เธอจะลองเดินไปชนประตูดูได้นะจะได้รู้ด้วยตัวเอง”
“แต่ว่า...”
“เลิกสนใจเรื่องไร้สาระซะที
รีบทานอาหารเช้านี่ซะ”
กุนกุนยื่นแก้วนมเปล่ากลับไปให้เขา
ฮาวเหยียนเชอหยิบผ้ามาเช็ดคราบรมที่มุมปากให้เธออย่างอ่อนโยน
สาวน้อยลงมือชิมอาหารตรงหน้าและตักป้อนฮาวเหยียนเชอเหมือนที่เคยทำ
ไม่มีใครในห้องตกใจหรือประหลาดใจกับพฤติกรรมของนายน้อยแล้วที่เห็นภาพของคนทั้งคู่ที่ผลัดกันป้อนอาหาร
ต้องเรียกว่าพวกเขาชินแล้วซะมากกว่า
P.S เรียกชื่อฉันสิ อร๊ายยยยยย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น