เป็นไงกันบ้างคะ ตอนที่แล้ว หวานพอมั้ย
หลังจากได้อะไรหวานๆแล้วมาเจออะไรที่ขมๆบ้างมั้ย 555
Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 84
เที่ยงวันในวันทำงานวันหนึ่ง
ที่ออฟฟิสของฮาวเหยียนเชอ
กุนกุนลุกจากเก้าอี้โต๊ะทำงานของเธอและวิ่งไปหาเจ้านายหนุ่มนั่งทำงานตั้งแต่เช้าด้วยความรวดเร็ว
ฮาวเหยียนเชอที่นั่งทำงานอยู่ได้ยินเสียงเธอวิ่งมาหาจึงเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร
รอจนกระทั่งเธอพาร่างตัวเองมาอยู่ใกล้มือ
ชายหนุ่มเลยหันไปหาและดึงแขนเธอให้นั่งลงมาบนตักเขา
กุนกุนรีบยกมือชายหนุ่มขึ้นมาจับที่หน้าท้องของเธอ ก่อนจะออดอ้อนเสียงหวานว่า
"นายน้อยคะ ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว
คุณลองจับท้องฉันดูสิคะ แล้วคุณจะรู้สึกว่ากระเพาะฉันมันว่างเปล่ามากแค่ไหน"
สาวน้อยบรรยายสภาพกระเพาะอาหารของเธอพร้อมทำตาปริบๆ
"อืม...มันก็กลมดี"
"คุณหมายความว่าไงคะ?"
"พุงเธอน่ะ มันกลมดี"
เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่พอใจบวกกับอารมณ์หิว
เด็กโง่ของฮาวเหยียนเชอเลยกล้าปัดมือเขาออก
แถมยังทำท่ากระฟัดกระเฟียดได้อย่างน่ารักน่าหยิกในสายตาของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก
เธอเลื่อนตัวเองลงจากตักเขา และเดินหน้าตูมกลับไปที่โต๊ะของเธอ อาการบึ้งตึงของเธอทำให้เจ้านายหนุ่มต้องเปลี่ยนหน้าที่ตัวเองมาเป็นคนเสริฟ์อาหารซะเอง
เขาเดินไปที่ตู้เย็นรูปหมูที่สั่งทำมาเป็นพิเศษให้เธอ จากนั้นก็ยกถาดอาหารออกมาวางไว้บนโต๊ะ
"เอานี่ไปอุ่นกินซะ"
ความน้อยใจของเธอแทบจะหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อเห็นเซ็ตอาหารท่าทางน่าอร่อยอยู่ตรงหน้า
"นายน้อย ยอดเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ
รอแป็บนึงนะคะ ฉันจะไปอุ่นอาหารแล้วเราค่อยมาทานพร้อมกัน"
อาการกระตือรือร้นของเธอที่มากเกินพอดี ทำให้ฮาวเหยียนเชอต้องลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ
"วันนี้เธอต้องกินคนเดียวนะ"
พูดจบก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ของตนเอง เพื่อหยิบแจ็คเก็ตมาสวม ก่อนจะเดินกลับมาหาเธอที่โต๊ะ
เอนตัวลงจนความสูงของเขาอยู่ในระดับเดียวกับหญิงสาวที่ทำหน้าเศร้า
ตั้งแต่รู่ว่าเธอต้องกินข้าวคนเดียวข้างบนนี้
เขาอดใจไม่ไหวต้องหยิกแก้มเธอเบาๆด้วยนิ้วเรียวยาว
"คุณจะไปไหนเหรอคะ?"
"ฉันต้องไปเซ็นสัญญาข้างนอก
อย่าแอบกินของหวานตอนฉันไม่อยู่ล่ะ เธอรู้นะว่าจะโดนอะไรถ้าฉันจับได้"
เธอยอมฟังเข้าอธิบาย
และรีบเร่งให้เดินทางเมื่อรู้ว่าเกี่ยวกับงานของเขา
"โอ๊ะ คุณต้องรีบไปงานเหรอคะ
งั้นก็..กลับมาเร็วๆนะคะ"
"อืม" ชายหนุ่มตอบรีบเพียงคำสั้นๆ
แต่ประทับรอยจูบที่หน้าผากเธอแผ่วเบาและเดินออกจากห้องไปพร้อมด้วยบอดี้การ์ดทั้งสองคนที่ส่งยิ้มล้อเลียนมาให้เธอ
กุนกุนมองตามเขาเดินออกจากห้องไปจนลับตา
และหันกลับมามองดูถาดอาหารของเธอพร้อมกับความอยากอาหารที่หายไปหมดสิ้น
เวลา 12.20 น.
กุนกุนทานอาหารของเธออย่างข้าๆ และเผลอมองประตูห้องบ่อยๆโดยไม่รู้ตัว
หวังว่าให้เขารีบกลับมา เธอสงสัยว่าเมื่อไหร่งานของฮาวเหยียนเชอจะเสร็จสักที
ทานต่อไปได้สักพักโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
เธอเอื้อมมือไปหยิบมาดูก็เห็นชื่อที่โทรเข้ามาก็พาให้เธอดีใจ
“พี่ตู !! สวัสดีค่ะ”
“พี่ดีใจจังเลยที่ได้ยินเสียงเธอ”
“ทำไมวันนี้ถึงโทรหาฉันได้ล่ะคะ
ปกติพี่ยุ่งจะตายนี่หน่า”
“เธอคิดถึงพี่บ้างมั้ย?” ติงตูถามกลับด้วยคนละคำถามกับเธอ
“คิดถึงสิคะ”
“งั้นลงมาข้างล่างสิ พี่รอเธออยู่”
คำตอบที่ได้มาทำให้เขามีกำลังใจมากเลยทีเดียว
“จริงเหรอคะ? พี่มาหาฉันเหรอคะ
รอก่อนนะคะ ฉันกำลังจะลงไป” สองขาสั้นๆของเธอพาเธอวิ่งออกมาจากส่วนออฟฟิสของฮาวเหยียนเชอและกดลิฟต์ผู้บริหารลงทันที
“พี่จะรอเธออยู่ข้างล่าง ไม่ต้องรีบหรอก
เดินระวังก็พอ” น่าหลิวติงตูเตือนเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
นาทีต่อมา
กุนกุนวิ่งออกมาถึงหน้าตึกบริษัทฮาวเหยียน
เธอเห็นพี่ชายยืนรออยู่ที่รถเขาก็รีบก้าวเท้าเข้าไปหา
จังหวะเดียวกับที่ติงตูอ้าแขนรับเธอ สาวน้อยรีบเดินเร็วขึ้นจนกลายเป็นวิ่งและกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดพี่ชายเธอ
“พี่ตู!! ดีใจจังเลยค่ะที่ได้เจอ”
“พี่มารับเธอไปหาอะไรกินกัน
แล้วพี่ก็มีเรื่องจะคุยกับเธอด้วย”
“ได้ค่ะ แต่ว่าฉันต้องรีบกลับไปทำงานต่อ
เราหาอะไรกินที่คาเฟ่ใกล้ๆนี่แทนได้มั้ยคะ ที่นั่นมีทารต์ไข่รสชาติดีมากเลยค่ะ”
ติงตูพยักหน้ารับอย่างไม่มีเงื่อนไข
กุนกุนเลยจับมือเขาเดินนำไปที่ “ติง คาเฟ่”
ทันที เมื่อเดินมาถึงร้านที่ตกแต่งได้อย่างน่ารัก ทั้งสองเข้าไปด้านในโดยเลือกที่นั่งสำหรับ
2 คน ในมุมที่ค่อนข้างจะส่วนตัวและกุนกุนก็เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน
“พี่ตู
ฉันต้องขอโทษเรื่องเมื่อวันก่อนด้วยนะคะ คือ
นายน้อยเขาเป็นพวกที่ไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสตัวเขา วันนั้นเขาเลยเตะพี่ออกมา เอ่อ...
พี่ยังเจ็บอยู่มั้ยคะ?”
อารมณ์ของน่าหลิวติงตูตกลงทันทีที่กุนกุนเอ่ยปากขอโทษแทนผู้ชายคนนั้น
เขาถามหลับด้วยน้ำเสียงที่เครียดขึ้นว่า “เขาเป็นใครสำหรับเธอ ทำไมเธอต้องมาขอโทษแทนเขาด้วย?”
สาวน้อยไม่ได้ตอบคำถามของเขา
เธอเพียงแต่ยิ้มบางๆให้ ทำให้ติงตูต้องถามต่อทันทีว่า
“ถ้าเขาไม่ยอมให้แตะตัวได้
แล้วทำไมเธอถึงสัมผัสตัวเขาได้ล่ะ”
“ฮี่ฮี่ เพราะฉันเป็นคนพิเศษไงล่ะคะ”
สาวน้อยภูมิใจอยู่ไม่น้อยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
มือที่อยู่ใต้โต๊ะกำหมัดแน่นเมื่อได้ยินคำตอบและท่าทางจากผู้หญิงอันเป็นที่รัก
แต่พอได้สบตากับเธอความเครียดของเขาก็ลดลงโดยไม่รู้ตัว
“ในสายตาของพี่
เธอก็เป็นคนพิเศษมากเหมือนกัน”
เสียงหวานของเขาที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนจากคนเป็นพี่ชายทำให้เธอต้องมองหน้าเขานิ่งอย่างงุนงง
ติงตูใช้จังหวะนี้จูบที่ริมฝีปากเธอเบาๆ ร่างของสาวน้อยแทบจะแข็งทันที
ยิ่งติงตูเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นแถมยังใช้ความเชี่ยวชาญในการจูบใช้ลิ้นเปิดปากเธอจนเผยอทำให้เขาสามารถลิ้มรสความหวานได้มากขึ้น
จูบของเขาอ้อยอิ่งอยู่นานจนกุนกุนรับรู้รสชาติกาแฟที่ติงตูเพิ่งดื่มได้อย่างชัดเจน
ชายหนุ่มถอนจูบอย่างเสียดาย เขามองเธอด้วยสายตาที่แสดงถึงความรู้สึกอย่างไม่ปิดบัง
“อืม...หวานจัง”
กุนกุนมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความว่างเปล่า
สมองเธอไม่สามารถติดหาเหตุผลได้ว่าทำไมเขาทำแบบนี้กับเธอ
ติงตูตอนนี้ไม่เหมือนกับพี่ชายของเธอเลย
“เอ่อ...ทารต์ ทารต์ไข่นี่หวานมากเลยนะคะ”
P.S น่าหลิวติงตูมา รุกแรงขนาดนี้
นายน้อยเราจะเป็นยังไง ที่แน่ๆ กุนกุนของพี่จะรอดมั้ยเนี่ย.......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น