แปลไปความดันจะขึ้น ไมเกรนจะกิน (- -)
Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 87
“ก็ดีถ้าเธออยากจะไปฟ้องพ่อ
ฉันจะเป็นคนพาเธอไปเอง” ฮาวเหยียนเชอหุนหันลุกขึ้นและดึงเธอขึ้นมา
“คุณ!! ฉันไม่ได้ใส่เสื้อผ้านะ”
“ไม่จำเป็นหรอก
ไปทั้งสภาพนี้ล่ะมันจะได้เป็นหลักฐานไว้ให้พ่อเธอเห็นไง”
กุนกุนสะบัดมือออกและรีบปิดบังทรวงอกของเธอไว้แม้จะไม่ได้ช่วยอะไรมากก็ตาม
“นายน้อย คุณ...คุณมันเป็นปิศาจร้าย
ฉันเกลียดคุณ ทำไมคุณต้องรังแกฉันขนาดนี้ด้วย
ถึงแม้ฉันจะเป็นแค่สาวใช้ของคุณแต่ฉันก็มีศักดิ์ศรีนะคะ ฉันเกลียดคุณ!”
แม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะใช้มือปิดบังหน้าอกของตัวเองไว้
แต่เธอคงจะลืมไปว่าเสื้อผ้าของเธอถูกฉีกขาดแล้วรวมถึงกางเกงชั้นในด้านล่างก็โดนเขาถอดทิ้งไปไหนไม่รู้
ฮาวเหยียนเชอยืนมองสภาพเธอแล้วพลางคิดว่าหากมีใครเข้ามาเห็นภาพนี้ก็คงคิดว่าเขาใช้กำลังขืนใจกุนกุนไปแล้วแน่ๆ
และเหมือนความคิดของเขาจะเป็นจริงทันทีเมื่อทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามาอย่างกะทันหัน
ฮาวเหยียนเชอพุ่งตัวเข้าไปกอดกุนกุนไว้เพื่อปกปิดร่างกายของเธอ
“ยี่ทู ออกไป!!!” ฮาวเหยียนเชอแทบจะคำรามออกมาเมื่อเห็นท่าทีตกใจของลูกน้องตัวเอง
ส่วนบอดี้การ์ดหนุ่มก็ไวทายาด
เขารีบปิดประตูทันทีโดยไม่ต้องรอให้เจ้านายสั่งครั้งที่สอง
ก่อนจะรีบห้อแน่บออกไปพร้อมกับภาวนาให้กับชีวิตของตัวเองหลังจากนี้ด้วย
“อ๊า!! นี่มันเป็นความผิดของคุณ
เขาเห็นหมดแล้ว ฮืออ...ฮาวเหยียนเชอฉันเกลียดคุณ”
กุนกุนผลักเขาออกและวิ่งไปที่ห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนและตะโกนออกมาว่า
“คุณมันปิศาจร้าย ฉันเกลียดคุณ” จากนั้นก็ปิดประตูห้องน้ำกระแทกอย่างแรง
ฮาวเหยียนเชอถอนหายใจออกมาอย่างแรงเขาเดินออกจากห้องนอนไปนั่งสงบสติในส่วนของห้องทำงานแทนแต่ก่อนจะออกไปก็ชกกำแพงอย่างแรงไปด้วยความหงุดหงิด
1 ชั่วโมงต่อมา ฮาวเหยียนเชอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน
โดยมีเอกสารอยู่ในมือแต่เขากับไม่มีสมาธิพอจะอ่านอะไรให้เข้าหัวเลยสักตัวอักษร
ชั่วโมงที่ 2
ฮาวเหยียนเชอหยิบปากกาขึ้นมาถือข้างไว้ในมือ แต่ความคิดที่วุ่นวายปนความเป็นห่วงคนในห้องก็พาลทำให้ไม่สามารถเขียนสั่งงานอะไรออกมาได้
ชั่วโมงที่ 3
ฮาวเหยียนเชอหยิบกุญแจห้องนอนที่อยู่ในลิ้นชักออกมาและเดินตรงไปที่ห้องนอนทันที
“หยวนกุนกุน เปิดประตู” ชายหนุ่มยืนรอนิ่งแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบกลับมานอกจากความเงียบ
“หยวนกุนกุน
อย่าพยายามทดสอบความอดทนของฉันนะ”
คนใจร้อนเริ่มร้อนใจขึ้นมาด้วยกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับยัยเด็กโง่ของเขา
ฮาวเหยียนเชอรีบไขกุญแจเข้าไปภาพแรกที่เห็นคือกุนกุนนอนหลับอยู่บนเตียง
เธอขดตัวและกอดผ้าห่มไว้แน่นแถมยังละเมอร้องไห้ออกมา แม้ว่าท่าทางของเธอตอนนี้คงจะดูน่าสงสารมากในสายตาของคนอื่น
แต่ไม่มีทางซะหรอกที่เห็นจะได้เห็นภาพนี้นอกจากเขาคนเดียว
ทว่าในความคิดของฮาวเหยียนเชอกลับคิดว่าเธอช่างเหมือนนางฟ้าตัวน้อยที่ตกหล่นมาจากสวรรค์
เขาทวนความคิดตัวเองและต้องหัวเราะออกมาเมื่อดันไปเผลอคิดว่าเธอคือนางฟ้า
นี่เขาเป็นอะไรถึงได้คิดว่ายัยข้าวปั้นตัวกลมนี่จะเป็นนางฟ้าไปได้
มากสุดเธอคงเป็นได้แค่ข้าวปั้นที่ติดปีก
แค่ลองนึกภาพว่าข้าวปั้นน้อยกำลังจะพยายามบินด้วยปีกสั้นๆแต่แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นไปได้เพราะน้ำหนักตัวก็ทำให้เขาต้องหลุดยิ้ม
ฮาวเหยียนเชอเดินเข้าไปใกล้เตียงมากขึ้นโน้มตัวลงใช้นิ้วดีดที่หน้าผากเธอเบาๆ
“เด็กอ้วน ตื่นได้แล้ว” เธอยังคงไม่ขยับตัวเขาเลยเขย่าไหล่ของเธอเล็กน้อย
“เด็กอ้วนตื่นขึ้นมาเร็วๆ
เธอต้องกลับไปทำงานต่อ” กุนกุนละเมออะไรสักอย่างออกมาในขณะที่ใบหน้าของเธอซุกลงกับหมอนมากขึ้น
“หยวนกุนกุน จะตื่นหรือไม่ตื่น” สาวน้อยข้าวปั้นไม่มีท่าทีจะรู้สึกตัว เขาเลยตัดสินใจทิ้งตัวลงนอนข้างเธอ
ส่วนกุนกุนอาจจะด้วยเคยชินที่ร่างกายของเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นข้างกาย
เลยขยับตัวเองให้เข้าไปหาเขามากขึ้นและกอดเอวเขาไว้ก่อนจะซุกหาจุดที่นอนหลับได้อย่างสบายในอ้อมกอดเขาบนหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของชายหนุ่ม
เจ้าของร่างที่อุทิศตัวเองเป็นหมอนและหมอนข้างซึมซับสัมผัสนุ่มนิ่มจากร่างของเธอก็ให้เข้าใจความรู้สึกของผู้เป็นพ่อของแล้วว่าทำไมถึงไม่ชอบให้คนอื่นกอดฉิวลี่หลัวทั้งๆที่เขาเป็นลูกชายก็ตาม
“หยวนกุนกุน นางฟ้าข้าวปั้น ยัยตัวน้อย
ยอมรับโชคชะตาซะเถอะว่าเธอจะต้องอยู่กับฉันตลอดไป”
เวลา 6 โมงเย็น กุนกุนค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
เธอลืมตาและเห็นว่ากำลังกอดใครอยู่ก็รีบผลักเขาออก
“อยู่ให้ห่างจากฉันเลยนะคะ” เธอยังไม่อยากเห็นหน้าเขาเลยผลิกตัวไปอีกด้านของเตียง ทำให้ฮาวเหยียนเชอต้องจับเธอให้หันกลับมา
เขาเลิกคิ้วตัวเองขึ้นอย่างกวนๆ
“ถ้าเธอร้องไห้ออกมาอีก
ฉันจะจับเธอสภาพนี้โยนออกไปนอกห้องแน่ๆ” กุนกุนทำได้แค่ยกมือขึ้นมาปิดหน้าแต่เสียงสะอื้นกับไหล่ที่สั่นไหวของเธอก็หลุดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
“ร้องไห้ไปก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้”
คนใจร้ายพูดเสียงเนือยๆ หวังให้เธอเลิกโกรธเขาซะที
“ยังจะพูดอีกเหรอคะ
นี่มันเป็นความผิดของคุณ!! แล้วนี่ฉันจะมีหน้าไปเจอคนอื่นได้ยังไงคะ”
“เอาละๆ อย่างร้องไห้อีกเลยยะ
ฉันจะไล่พวกเขาออกให้หมดแล้วกัน”
“ไม่ได้นะคะ” เธอรีบแหวเสียงแหลมออกมา
คนอะไรไม่รู้จักความผิดของตัวเองพาลไปลงกับคนอื่นได้ยังไง
“ถ้างั้น
ฉันจะควักลูกตาพวกเขาออกมาให้แทนแล้วกัน”
“คุณจะบ้าเหรอคะ!”
P.S เออ...บ้ากันไปหมดแล้ว คนแปลก้อจะบ้าเหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น