Beloved
little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 63
ในห้องทำงาน
เจียทูกำลังคุยเรื่องคนร้ายอยู่กับเจ้านาย
“คนที่ทำร้ายกุนกุนอยู่ที่ไหน?”
“เธอ...ไปแล้วครับ”
“ไปแล้ว ??”
“ครับนายน้อย
ผมสมควรโดนลงโทษ”
“เจียทู
นายกับยี่ทูก็ยังไม่แก่ แต่ฉันว่าตอนนี้พวกนายเริ่มไม่ประโยชน์แล้วนะ”
ฮาวเหยียนเชอตำหนิเสียงเครียด
ขณะที่เจียทูกำลังโดนกดดันจากสายตาของฮาวเหยียนเชอ
หยวนกุนกุนก็เดินมาห้องทำงานพอดี เธอเปรียบเหมือนระฆังช่วยชีวิตเขาจริงๆ
หญิงสาวอุ้มเสี่ยวหยวนรีบเดินเข้าไปหาฮาวเหยียนเชอทันที
“นายน้อยดูเสี่ยวหยวนสิคะ
ทำไมขนที่หัวของมันร่วงหมดเลย คุณคิดว่ามันไม่สบายหรือเปล่าคะ?”
“เธอลืมไปหรือเปล่าว่ายังไม่ได้เคาะประตู”
กุนกุนหันหลังกลับไปที่ประตูทั้งๆที่ยังอุ้มเจ้าสุนัขหัวโล้นอยู่
“หยุดนะ
นั่นเธอกำลังจะไปไหน”
“ฉันจะกลับไปเคาะประตูไงคะ”
เธอหันมาตอบตาใสไม่รู้เพราะความกวนหรือด้วยความซื่อของเธอกันแน่แต่คำตอบของเขาทำให้ฮาวเหยียนเชอต้องสูดหายใจลึก
และเจียทูก็ต้องกลั้นหัวเราะไว้จนปวดแก้ม
“ช่างมันเถอะแล้ววางมันลงด้วย”
กุนกุนวางเสี่ยวหยวนลงบนพื้นและหมุนนิ้วมืออย่างกระวนกระวาย
“มานี่ซิ” หญิงสาวเดินเข้ามาหาเขาตามแต่ก็เอามือปิดหัวของเธอไว้
“อย่าเขกหัวฉันเลยนะคะ”
เมื่อเข้ามาใกล้ฮาวเหยียนเชอก็ดึงเธอให้นั่งลงบนตักเขาและหยิกก้นของเธอเพื่อทำโทษแทน
“อุ้ย
คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ พี่เจียทูยังยืนอยู่นี่เลย” กุนกุนหันไปพูดเสียงเบา
เธอหันไปส่งยิ้มแหยๆให้กับเจียทูแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่เห็นยี่ทูยื่นอยู่ข้างๆเหมือนเคยเลยหันกลับมาถาม
ฮาวเหยียนเชอว่า
“พี่ยี่ทู
ไปไหนเหรอคะ?”
“นั่นไม่ใช่ธุระของเธอ”
“แต่ฉันถามคำถามอะไรไม่ได้เลยเหรอคะ?”
“ไม่ได้” ฮาวเหยียนเชอตอบก่อนจะหยิกแก้มนุ่มของเธอ
“โอ๊ย ฉันเจ็บนะ
เบาๆมือหน่อยสิคะ”
เจียทูโล่งใจจริงๆที่กุนกุนเข้ามาในห้องได้ทันเวลา
เธอมาช่วยลดอุณหภูมิความโกรธของเจ้านายลงไปได้เยอะ
“นายน้อย..
เสี่ยวหยวนมัน...”
“มันยังไม่ได้ตายก็ดีละ”
เขาไม่มีท่าทีสนใจเจ้าสุนัขที่ได้แต่นอนหมอบอยู่ที่ประตูเพราะสายตาฟาดฟันของฮาวเหยียนเชอที่คอยส่งไปตลอดเวลาที่มันทำท่าจะวิ่งมาหากุนกุน
เขากลับไปเล่นผมของเธอต่อ
“ทำไมผมเธอถึงยังเปียกแบบนี้ล่ะ”
“ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จก็รีบวิ่งมานี่เลย
คุณไม่ได้กลิ่นหอมเหรอคะ” กุนกุนก้มลงไปซุกตรงคอเขาด้วยอาการออดอ้อนโดยไม่รู้ตัวทำให้ฮาวเหยียนเชอต้องก้มลงไปดมกลิ่นสบู่ที่คอของเธอและทำรอย
คิสมาร์คทิ้งไว้ด้วย
“กลับไปห้องไปเป่าผมให้แห้งซะ”
สาวน้อยหน้าแดงขึ้นมาทันทีเธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำรอยคิสมาร์คที่คอเธอในขณะที่เจียทูก็ยืนอยู่ในห้องด้วย
“แต่ฉันต้องไปทำอาหารนะคะ”
“เธอไม่จำเป็นต้องทำอาหารอีกแล้วล่ะ”
“ทำไมละคะ?”
“ฝีมือการทำอาหารของเธอไม่ดีพอ”
กุนกุนก้มหน้าลงคอตกทันทีที่ได้ยินฮาวเหยียนเชอปฏิเสธอาหารของเธอ
เพราะการทำอาหารเป็นความสามารถเดียวที่เธอได้ดี
เธอรู้สึกเจ็บแปลบในในเมื่อคิดว่าเขารังเกียจอาหารของเธอ
ฮาวเหยียนเชอรู้ว่ายัยข้าวปั้นกำลังคิดอะไรอยู่เลยจับคางเธอให้เงยหน้าขึ้นมา
“ต่อไปนี้ฉันไม่อนุญาตให้เธอไปที่ห้องครัวอีก”
เขารู้ว่าเธอเศร้าและไม่อยากเห็นเธอเสียใจ
แต่เขาก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบเมื่อวันก่อนเกิดขึ้นอีก
เลยดันเธอให้ลุกขึ้นจากตักเขาและจับมือเธอพาเดินไปที่ประตูห้องก่อนจะหันกลับมาสั่งเจียทูด้วยเสียงเครียดๆว่า
“นายแน่ใจใช่มั้ยว่าจะหามันเจอ”
“ครับ นายน้อย” เจียทูโค้งรับคำสั่ง
ฮาวเหยียนเชอเลยจับมือกุนกุนพาเดินกลับไปที่ห้องนอนของเธอ
เมื่อถึงห้องนอนเขาดันให้เธอไปนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้งและหยิบไดร์มาเป่าผมให้เธอ
กุนกุนมองฮาวเหยียนเชอตั้งใจเป่าผมให้เธอจากเงาในกระจก เธอจดจ้องทุกท่วงท่าที่มือสวยๆนั่นจับผมของเธอด้วยความอ่อนโยน
กุนกุนมองเขาอย่างเหม่อลอยจนฮาวเหยียนเชอไดร์เสร็จก็เคาะหัวเธอเพื่อเรียกสติ
“หวีผมได้แล้ว”
น้ำหนักที่ลงบนหัวของเธอทำให้เธอได้สติขึ้นมาและรีบหยิบหวีมาแปรงผมยาวของเธอ
“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้จะมีครูมาสอนเธอที่บ้าน”
“สอน? สอนอะไรคะ”
“สอนเรื่องการเป็นเลขาฯ”
“เป็นเลขาฯเหรอคะ?”
“อืม..” ฮาวเหยียนเชอเริ่มขมวดคิ้ว
“ทำไมละคะ?”
“อย่าถามมากได้มั้ย”
ถึงเขาจะเริ่มรำคาญกับคำถามของเธอแต่มือก็ยังเล่นผมของเธอไปด้วย
“แล้วถ้าฉันเรียนจบแล้วละคะ?
”
“ก็ต้องทำงานเป็นเลขาฯ
สิ” เขาเริ่มฉุนขึ้นมา
การคาดเดาของฮาวเหยียนเชอถูกต้องระดับไอคิวของหยวนกุนกุนอยู่ในระดับล่างสุดจริงๆ
“แล้วฉันต้องไปเป็นเลขาฯให้ใครคะ”
ฮาวเหยียนเชอถลึงตาใส่ทำให้กุนกุนทำปากยื่น
แต่เขาก็ขี้เกียจเกินจะตอบคำถามไร้สาระของเธอ
“เอ่อ...
เป็นเลขาฯให้คุณเหรอคะ?”
“ถ้าเธอยังถามคำถามปัญญาอ่อนแบบนี้เอง
ฉันจะกัดคอและดูดเลือดเธอให้หมดตัวเลยจริงๆ”
“ก็แล้วถ้าฉันเรียนไม่ผ่านละคะ”
“เธอคิดว่ายังไงล่ะ?”
ฮาวเหยียนเชอตอบเพียงแค่นั้นแต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ซอกคอของเธออย่างจริงจัง
ทำให้กุนกุนต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดคอของเธอทันที
P.S.
1. นายน้อยจะแคร์อะไร
นางไม่แคร์ใครแล้วค่ะ จุดนี้ จะกินข้าวปั้นแบบกุนกุนให้ได้เลยจริงๆ
2. ผู้แปลขอเปลี่ยนฉายากุนกุนจากยัยลูกบอลข้าว
เป็นยัยข้าวปั้นนะคะ น่าจะทำให้นึกภาพได้
ออกมากกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น