Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 74
หลังจากท่องกฎทั้ง 10 ข้อให้เขาฟัง
กุนกุนก็น้ำตาไหลออกมาอีกที เธอซาบซึ้งในความรักของสุนัขกับเจ้านายของมันมาก
แต่ฮาวเหยียนเชอก็ยังคงไม่ชอบใจที่เห็นน้ำตาเธอ
“ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าห้ามร้องไห้
เพราะเธอจะยิ่งดูน่าเกลียด” เธอไม่ตอบรับแถมยังยื่นมือไปกอดคอเขาเอาไว้อีก
“นายน้อยคะ
สัตว์เลี้ยงทุกตัวก็เหมือนในหนังหมดล่ะค่ะ ถ้าคุณเลี้ยงดูพวกมันดี
มันก็จะไม่ลังเลที่จะปกป้องคุณ เชื่อฟังคุณ
หรือแม้กระทั่งอยู่กับคุณตลอดเวลาไม่ว่าคุณจะสุขหรือทุกข์
แต่น่าเสียดายที่ชีวิตของพวกมันสั้นนัก
ฉันเลยกลัวว่าถ้าหากวันนึงถึงเวลาที่เสี่ยวหยวนจะต้องตาย
หรือตอนที่พวกสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆของฉันพากันตายจากฉันไปหมด ฉันจะทำยังไงคะ
ฉันคงทำไม่ได้แน่ๆ ฮึก ..ฮึก” ฮาวเหยียนเชอรู้ดีว่าสาวน้อยในอ้อมกอดของตนมีความรักและปรารถนาดีต่อสัตว์เลี้ยงมากแค่ไหน
เขาตบหลังเธอเบาๆเพื่อปลอบ
แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมสมองของเธอถึงได้ไปเหมือนพวกสัตว์ได้ยังไง
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าครอบครัวของฉันจากฉันไปก่อนละคะ?”
กุนกุนยังคงอ่อนไหวกับเรื่องความตาย
เธอไม่อยากให้ทุกคนที่เธอรักจากเธอไปเลย
“เธอมีเวลาว่างอีกเยอะ
เดี๋ยวค่อยมาคิดเรื่องนี้แล้วกัน แล้วถ้าฉันตายเธอจะร้องไห้เสียใจแบบนี้มั้ย หือ ?”
เมื่อเห็นว่าสาวน้อยไม่มีท่าทีจะเลิกร้องไห้
เขาเลยตั้งคำถามขึ้นมาโดยหวังว่าคำตอบของเธอจะทำให้เขาพอใจ
“แน่นอนสิคะ
ฉันต้องเสียใจ แต่เอ๊ะ ทำไมคุณถามแบบนี้ละคะ คุณจะตายไม่ได้นะ” คำถามของเขาทำให้เธอร้องไห้หนักกว่าเดิม
เธอร้องเหมือนเขาได้ตายไปตรงหน้าเธอแล้ว
“เงียบซะเถอะ”
“คุณไม่สบายตรงไหนเหรอคะ?
คุณต้องไม่สบายหนักมากแน่ๆ ถึงได้ถามแบบนี้ออกมา คุณจะทิ้งฉันไปไม่ได้นะ
ถ้าไม่มีคุณฉันคงจะเสียใจเหมือนเจ้าของสุนัขในหนังแน่ๆ” นี่เธอเห็นเขาเป็นสัตว์เลี้ยงของเธองั้นเหรอ?
แต่เพราะเห็นเธอร้องไห้น่าสงสาร เขาเลยทำเป็นไม่สนใจคำพูดแปลกๆของหญิงสาว
เขาเคาะหัวเธอแทนก่อนจะหยิบช็อคโกแลตออกมาจากลิ้นชัก
กล่องช็อคโกแลตนั้นทำให้กุนกุนหยุดร้องไห้ได้ทันทีก่อนจะกระโดดลงจากตักเขาด้วยท่าทางร้อนรนเหมือนคนมีชนักติดหลัง
“ฉัน
ฉันจะไปเตรียมน้ำอุ่นให้คุณอาบนะคะ” สาวน้อยพยามยามหาทางชิ่งเมื่อเหลือบไปเห็นว่าเขาเปิดกล่องนั้นแล้ว
“หยุดเดี๋ยวนี้ !
ช็อคโกแลตหายไปไหนหมด?”
“มัน...อยู่ในนี้ค่ะ”
เธอพูดพลางก้มหน้าคอตกและชี้ไปที่พุงของตัวเอง
“ทั้งหมดเลยงั้นเหรอ?”
เสียงของเขาที่ดุขึ้นมาทำให้กุนกุนต้องก้าวถอยหลังอย่างช้าๆ
“ก็เหมือนจะแบบนั้นนะคะ”
หญิงสาวตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“ดี!!!” ฮาวเหยียนเชอแค่นเสียงประชดออกมาแล้วปรบมือให้เธอ แปะ แปะ แปะ
เสียงปรบมือเหมือนสัญญานบอกให้เธอเตรียมโดนลงโทษ เธอหันหลังและออกวิ่งทันที
แต่ในเมื่อขาของเธอสั้นกว่าเขาเยอะ
ฮาวเหยียนเชอแทบจะไม่ต้องใช้แรงอไรมากเลยก็จับตัวเธอได้ก่อนจะอุ้มเธอพาดบ่ากลับมาที่เตียง
จากการลงโทษที่ทรมานของเขาคืนนี้ทำให้เธอรู้ได้เลยว่าเธอไม่สามารถหนีเขาไปได้จริงๆ
2 วันต่อมา
ประจำเดือนของเธอก็หมด ทำให้เธอได้เวลากลับมาเรียนเหมือนเดิม
สถานการณ์ในช่วง 2
วันนี้ดำเนินไปอย่างปกติ จนล่วงเข้าอาหารกลางวัน
ฮาวเหยียนเชอที่เดินจับมือกุนกุนไปห้องอาหารต้องอารมณ์เสียเมื่อกุนกุนแสดงความดีใจออกมานอกหน้าที่เห็นยี่ทู
ยืนรออยู่หน้าห้อง เธอลืมตัวแม้กระทั่งปล่อยมือเขาออกและวิ่งไปหาบอดี้การ์ดหนุ่มแถมยังยื่นมือไปจับแขนของยี่ทูอีก
ซึ่งนั่นก็ทำให้ยี่ทูต้องยืนตัวแข็งเพราะเขาเห็นสีหน้าของเจ้านายที่เดินตามมาข้างหลัง
“พี่ยี่ทู !!!
”
“ว่าไงกุนกุน”
“พี่หายไปไหนมาคะ
ไปเที่ยวมางั้นเหรอ?”
“อะ..เอ่อ..อืม.. ใช่จ๊ะ ใช่”
ยี่ทูพูดตอบแบบขอไปทีเพราะสายตาอาฆาตที่แผ่มาจากฮาวเหยียนเชอทำให้เขารู้สึกขาอ่อน
“สนุกมั้ยคะ?”
“ก็ดีจ๊ะ” คนที่อารมณ์แปรปรวนง่ายไม่ปล่อยให้กุนกุนได้ถามอะไรอีก
เขาเดินเข้าไปดึงตัวเธอมาอย่างเร็วทำให้กุนกุนที่ไม่ทันตั้งตัวกระแทกเข้ามาที่หน้าอกเขา
ก่อนจะจับเอวเธอไว้แน่น
“อ๊ะ
นายน้อยฉันเจ็บเอวนะคะ” ฮาวเหยียนเชอไม่พูดอะไร
เขายืนจ้องหน้ายี่ทูสักครู่และเดินนำเธอไปที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งลงโดยมีกุนกุนนั่งตักเขาอีกทีเหมือนเดิม
กุนกุนไม่ได้รับรู้บรรยากาศมาคุเล็กๆนั้น เธอให้ความสนใจอาหารบนโต๊ะก่อนชะลงมือชิม
1 คำ และป้อนคำต่อไปให้ฮาวเหยียนเชอ
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาตินับตั้งแต่กุนกุนออกมาจากโรงพยาบาลทั้งคู่ก็ตัวติดกันเกือบตลอดเวลา
บรรดาสาวใช้ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ตอนที่เจ้านายเดินมาถึงหน้าห้อง
และยังไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นสายตาและไออำมหิตที่แผ่ออกมาจากตัวยามที่เห็นกุนกุนจับแขนยี่ทู
ทุกคนต่างพากันคิดว่านี่คือปาฏิหาริย์จริงๆที่เห็นอารมณ์โกรธของเจ้านายอยู่ๆก็ลดลงทันทีเพราะว่าที่นายหญิงของบ้านที่นั่งอยู่บนตักเขาแบบสนิทสนมทั้งๆที่ไม่เคยมีใครสัมผัสตัวชายหนุ่มได้
“นายน้อยคะ
ว่าแต่พี่เจียเถาหายไปไหนเหรอคะ ฉันไม่เห็นพี่เค้ามานานแล้ว”
“กุนกุน ความจริงคือ
เจียเถาเป็น...” ยี่ทูแทรกขึ้นมาด้วยความกล้า แต่...
“เธอลาออกไปแล้ว”
เสียงเครียดของฮาวเหยียนเชอดังใกล้ๆหูของเธอ
“เอ๊ะ ลาออกเหรอคะ
ทำไมละคะ” กุนกุนหันกลับไปถามเจ้านายหนุ่มที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะหยิบปอเปี๊ยะทอดกัดเข้าปาก
1 คำ และส่งส่วนที่เหลือป้อนเข้าปากของฮาวเหยียนเชอ
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”
ชายหนุ่มที่เป็นเก้าอี้ให้เธอนั่งตอบไปโดยไม่สนใจอะไรพลางก็เคี้ยวปอเปี๊ยะทอดที่กุนกุนป้อนให้เขาไปด้วย
กุนกุนเงียบไปเธอนั่งคิดและนึกขึ้นมาได้ว่าเจียเถาเคยบอกเธอเหมือนกันว่าเคยเป็นสาวใช้ของฮาวเหยียนเชอ
เธอลองนึกดูว่าถ้าหลังจากนี้ 3 ปี เธอต้องกลับบ้านเขาก็คงจะไม่สนใจเธอ
หญิงสาวนิ่วหน้าพลางมองสีหน้าเขาไปด้วย
เพราะฮาวเหยียนเชอไม่ได้เป็นชอบแสดงออกทางสีหน้าเท่าไหร่นัก
เขาเลยดูเหมือนคนเย็นชาตลอดเวลา ทำให้เมื่อกุนกุนเห็นหน้าเขาจู่ๆก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา
ใช่สิ เค้าคงไม่แคร์อะไรเธอหรอกว่าเธอจะอยู่หรือไป
“มีอะไรหรือเปล่า”
ฮาวเหยียนเชอถามขึ้นมาเมื่อเห็นเธอมองจ้องหน้าเขาอยู่นานแถมอยู่ดีดีก็ทำหน้าเศร้าซะอีก
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”
เธอปฏิเสธก่อนจะหันไปเลือกตักอาหารจานอื่นมาชิม แล้วป้อนให้เขาต่อ
ส่วนเขาก็ไม่ได้ถามเธออีกว่าทำไมถึงนิ่งไป
หลังมื้ออาหาร
กุนกุนโบกให้ฮาวเหยียนเชออยู่หน้าห้องอาหาร
“นายน้อยคะ
ฉันไปเรียนก่อนนะคะ”
“อือ”
ยี่ทูยืนรออย่างเงียบๆจนกระทั่งเห็นกุนกุนเดินเลี้ยวไปที่มุมตึกเพื่อไปห้องเบอร์
15 เขาเลยรวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้นมาว่า
“เจ้านายจะปิดเรื่องเฉินเจียเถากับกุนกุนจริงๆเหรอครับ?”
“อืม”
“แต่ผมว่ามันจะอันตรายนะครับ
ตอนนี้เจียเถากำลังหนีอยู่ถ้าเธอย้อนกลับมาที่นี่และทำร้ายกุนกุนล่ะครับ? ผมว่าเจ้านายบอกความจริงกับเธอจะดีกว่ามั้ยครับ
กุนกุนจะได้ป้องกันตัวเองได้บ้าง”
ฮาวเหยียนเชอไม่ได้สนใจในประโยคเตือนของลูกน้องมากไปกว่าท่าทีที่ยี่ทูเป็นห่วงกุนกุนออกนอกหน้า
“ดูเหมือนว่านายจะเป็นห่วงกุนกุนมากไปมั้ง....”
P.S. ยี่ทูคัมแบ็คคคคคค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น