Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 67
เมื่อเดินมาถึงห้องนอนสีชมพู
“หยวนกุนกุน !!” เสียงคำรามของเขาทำให้จิตวิญญาณที่ล่องลอยของเธอกลับเข้าร่าง
กุนกุนหันหน้าไปตามเสียงเรียกแล้วก็ต้องแอบกลัวเมื่อเห็นสีหน้าดำคล้ำของเขา
“ฉันอยู่นี่ค่ะ”
เธอตอบเสียงเบา
“ใครบอกให้เธอออกมาแบบนี้”
ฮาวเหยียนเชอไม่รอคำตอบเขาเดินตรงไปที่เตียงและเอื้อมไปหยิกก้นของเธอ
“โอ๊ย
อย่าหยิกได้มั้ยคะ มีรอยช้ำสีม่วงอยู่ที่ก้นฉันเต็มไปหมดแล้ว”
“ดี
งั้นฉันจะช่วยเพิ่มรอยสีม่วงให้อีกแล้วกัน” พูดไปก็ไม่หยุดมือหยิกทั้งก้นซ้ายก้นขวาของเธอ
“โอ๊ย.. นายน้อย
ฉันผิดไปแล้วค่ะ ยอมแล้วๆ”
ฮาวเหยียนเชอลากกุนกุนให้กลับไปที่ห้องนอนของเขา
เมื่อเดินกลับมาถึงเขาก็ผลักเธอลงบนเตียงก่อนจะพูดเปิดฉากว่า
“ใครใช้ให้เธอกลับไปที่ห้องนั้น
ทำไมไม่นั่งรอฉันอยู่เตียง อยากให้ฉันโกรธเธอนักใช่มั้ย ?”
สาวน้อยได้แต่เขยิบตัวไปชิดของเตียงอีกด้านตรงข้าม
“ขยับเข้ามาใกล้ๆ”
กุนกุนเลยกระเถิบออกมาจากขอบเตียงอีกนิดนึงทำให้ฮาวเหยียนเชอถอนหายใจอย่างแรงก่อนจะดึงตัวเธอให้เข้ามาในอ้อมกิอด
“ถ้าเธอจะนอนที่ขอบเตียงอีก
ฉันจะดีดเธอตกเตียงแน่ๆ” ฮาวเหยียนเชอขู่และหยิกบั้นท้ายเธออีกครั้ง
“นอน !!” พูดจบก็ดึงตัวกุนกุนให้ลงนอนด้วยกันแต่มือของเขาก็ยังไม่วายป้วนเปี้ยนอยู่ที่ก้นของเธอ
สาวน้อยพยามยามหลบมือของเขาแต่ก็ไม่พ้นต้องบ่นออกมาว่า
“นี่มันก้นของฉันนะคะ”
เธอพูดพึมพำ
“ว่าอะไรนะ?”
“เปล่าค่ะ
ฉันบอกว่าทุกอย่างเป็นของคุณ” ฮาวเหยียนเชอเริ่มอารมณ์ดีเล็กน้อยจากสัมผัสนุ่มนิ่มของร่างในอ้อมกอดก่อนจะลูบผมยาวของกุนกุนเล่น
“นายน้อย
ฉันนอนไม่หลับค่ะ” เธอใช้หน้าถูไถกับหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาด้วยท่าทางน่ารัก
“เราคุยกันสักหน่อยดีมั้ยคะ?”
กุนกุนพยายามหาเรื่องชวนคุยเผื่อจะช่วยให้เธอนอนหลับได้
ส่วนฮาวเหยียนเชอก็ไม่ตอบอะไรแค่กอดเธอแน่นขึ้นอีก
“ปกติแล้วฉันมีเพื่อนนอนด้วยเสมอ
แล้วคุณละคะ”
“ฉันนอนคนเดียว”
“งั้นทำไมคุณถึงให้ฉันย้ายมานอนที่นี่ละคะ?”
ฮาวเหยียนเชอก้มลงสบตาใสซื่อของยัยข้าวปั้นแต่ยังไม่ทันพูดอะไรกุนกุนก็เล่าเรื่องของเธอต่อว่า
“ตอนฉันเป็นเด็ก
ฉันจะนอนกับแม่เสมอ แต่พอคุณพ่อตามหาพวกเราเจอและพาเรากลับบ้าน
ก็ไม่ยอมให้ฉันนอนกับคุณแม่อีก ฉันเลยแอบไปห้องพี่ตูและปีนขึ้นนอนบนเตียงกับเขาแทน
พี่ตูใจดีมากเขาไม่ไล่ฉันไปไหนแถมยังกล่อมฉันด้วยนิทานก่อนนอนอีก แต่พอฉันอายุ 15
พีตูก็ห้ามไม่ให้ฉันไปเข้านอนในห้องเขาถ้าฉันแอบเข้าไปก็จะโดนพาตัวกลับมาที่ห้องตัวเองทุกครั้ง.......”
เมื่อเห็นฮาวเหยียนเชอนิ่งไปแถมยังตัวเกร็งขึ้นมาเธอก็ถามว่า
“นายน้อยมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ลุก – ออก – ไป ”
กุนกุนค่อยๆเขยิบตัวออกจากอ้อมกอดของเขาไปยืนอยู่ข้างเตียง
ส่วนเจ้าของห้องที่อารมณ์แปรปรวนตั้งแต่ได้ยินเธอเอ่ยชื่อ พี่ตู
ออกมาแล้วนั้นก็หันไปปิดไฟที่หัวเตียง ทั้งห้องมืดลงกุนกุนยืนอยู่ข้างเตียงไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมา
เธอยืนอยู่ในความมืดจนขาชาเลยตัดสินใจนอนลงบนพื้น
เพราะฮาวเหยียนเชอสามารถมองเห็นในที่มืดได้เป็นอย่างดีเขาเลยเห็นท่าทีที่สับสันของเธอ
แต่เขาก็ยังโกรธอยู่ที่เธอกล้าเอ่ยชื่อนั้นออกมาอีก
กลางดึกฮาวเหยียนเชอนอนบนเตียงในขณะที่กุนกุนนอนอย่างสงบอยู่บนพื้น
เขาแอบชะโงกหน้าไปดูที่ข้างเตียงก็พอว่ายัยข้าวปั้นนอนขดตัวหันหน้าเข้ามาทางเตียงนอน
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอมีความสามารถปรับตัวได้กับทุกที่เพื่อการนอน
เมื่อมองหน้าเธอก็ได้แต่นึกหมั่นเขี้ยวอยู่ในใจ ถ้าเธอยอมอ้อนขอให้เขายกโทษให้
เขาก็คงยอมให้เธอขึ้นมานอนบนตียงทันที
แต่นี่เธอไม่เอ่ยปากขอร้องเขาสักคำงั้นก็นอนบนพื้นต่อไปเถอะ
เช้าวันรุ่งขึ้น
กุนกุนรู้สึกว่ามีใครกำลังเตะก้นเธออยู่ เลยลืมตาขึ้นมา
“อรุนสวัสดิ์ค่ะ
นายน้อย” เธอบิขี้เกียจและลุกขึ้นยืนเพื่อนจะคุยกับเขา
แต่ฮาวเหยียนเชอทำเป็นไม่สนใจเธอ เดินเลยผ่านไปที่ห้องน้ำโดยไม่พูดไม่อะไร
หญิงสาวได้แต่เกาหัวก่อนจะหันไปจัดเตียงนอนให้เขาแทนจนเสร็จเรียบร้อย
ก็เดินตามไปที่ห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าฮาวเหยียนเชอเปิดประตูไว้
และยืนโกนหนวดอยู่ที่อ่างล้างหน้า
เลยเดินเข้าไปยืนแปรงฟันอยู่ข้างๆ
แอบลอบมองหน้าด้านข้างของเขาไปด้วยเงียบๆ
P.S. เค้างอน
ก็ง้อเค้าหน่อยนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น