Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 35
“คนมักจะบอกว่าไขมันจะช่วยต่อต้านความหนาวได้
แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นข้อยกเว้นนะ”
กุนกุนสะบัดหน้าเมินเฉยไม่สนใจต่อคำยั่วยุของฮาวเหยียนเชอ
“ความอ้วนของเธอนี่ไม่มีประโยชน์เลยจริงๆ”
กุนกุนหันมาจ้องหน้าฮาวเหยียนเชอ
“คุณพูดถูก
ความอ้วนของฉันมันไม่ประโยชน์ ถ้างั้นมันคงไปขวางตาคุณมากสินะ? แม่ของฉันเคยพูดว่า
แมวมีปลากิน สุนัขมีเนื้อกินก็มีความสุขแล้ว
ฉันชอบการกินอาหารและฉันไม่มีปัญหากับความอ้วน เพราะฉะนั้นคุณไม่มีเหตุผลที่จะมาว่าฉันหรือโกรธที่ฉันอ้วน”
“นี่เธอพูดเรื่องอะไรอยู่เนี่ย”
จบประโยคของกุนกุนฮาวเหยียนเชอก็ยังคงแหย่เธออีกครั้ง
ส่วนกุนกุนที่นึกขึ้นได้ว่าเธอยังโกรธเขาอยู่เลยหันหน้ากลับไปทางเดิม
“แล้วเธอเป็นแมวหรือเป็นสุนัขล่ะ?”
ฮาวเหยียนเชอหยิกเข้าไปที่แก้มของกุนกุนด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ฉันเป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกเจ้าของทำทารุณ”
กุนกุนยังคงเถียงต่อปากยื่น
ฮาวเหยียนเชอดึงแก้มของกุนกุนหันหน้ามาและยิ้มให้อย่างอ่อนโยนอบอุ่น
รอยยิ้มที่แปลกไปของเขาทำให้กุนกุนนิ่งอึ้งอย่างคาดไม่ถึงเลยว่าคนเย็นชาแบบเขาจะรู้วิธีการยิ้มแบบนี้ได้
“เธอมองอะไร?”
กุนกุนตั้งสติได้เลยตั้งใจจะเมินหน้าอีกครั้งแต่ฮาวเยียนเชอใช้นิ้วชี้ดันจมูกเล็กๆของเธอซะก่อน
ตอนนี้กุนกุนเลยกลายเป็นลูกหมูจริงๆ หลังจากแกล้งกุนกุนจนพอใจ
ฮาวเหยียนเชอเดินออกไปรับชามโจ๊กจากสาวใช้ที่ยืนรออยู่หน้าห้องมาวางไว้บนเตียงให้กับกุนกุน
“ลุกขึ้นมานั่งดีๆแล้วกินโจ๊กซะ”
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธฮาวเหยียนเชอเลยยกถาดอาหารไปวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงแล้วหันมาดึงกุนกุนให้ลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียง
จากนั้นจึงลงมือป้อนโจ๊กให้เธอด้วยตัวเอง
เหล่าสาวใช้ที่เห็นตกใจมากพอๆกับฮาวเหยียนเชอที่ประหลาดใจเหมือนกันที่เขามีความอดทนพอที่จะป้อนโจ๊กให้สาวน้อยอย่างช้าๆ
ไม่ต่างจากกุนกุนก็แปลกใจกับท่าทีของเขา
เมื่อกินไปได้สักพักกุนกุนเลียริมฝีปากของตัวเองเพราะเธอไม่ได้คาดหวังว่าฮาวเหยียนเชอจะช่วยเช็ดปากให้
“เธออยากจะกินอีกเหรอ?”
“ไม่ค่ะ ฉันอิ่มแล้ว”
“ถ้างั้นเธอเลียริมฝีปากตัวเองทำไม?”
“ทำไมฉันจะเลียริมฝีปากตัวเองไม่ได้ละคะ
? ก็ฉันคิดว่าคุณคงไม่ใจดีขนาดเช็ดปากให้ฉันแน่นอน”
“เธอพูดอะไรของเธอ?
อย่าเอาแต่คิดไปเอง” ฮาวเหยียนเชอหันไปหยิบกระดาษทิชชู่บนโต๊ะมาเช็ดปากให้กุนกุนอย่างอ่อนโยน
“เธอ....ยังอยากกลับบ้านอยู่หรือเปล่า?”
“ค่ะ..ฉันอยากกลับไปเยี่ยมบ้านบ้าง”
“ทำไม??
เธอไม่ชอบอยู่ที่นี่หรือไง?”
“ฉันบอกคุณไปแล้วว่าฉันก็แค่คิดถึงครอบครัวคนที่บ้าน
คิดถึงพวกสัตว์เลี้ยงของฉัน” ฮาวเหยียนเชอเห็นท่าทีว่าจะร้องไห้อีกครั้ง
เขาไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอเลยถามไปว่า
“น่าหลิวติงตูเป็นใคร?”
“พี่ชายของฉันค่ะ”
“อืม..งั้นฉันอนุญาตให้เธอกลับบ้านได้”
“อะไรนะคะ?”
“เที่ยงคืนของวันนี้ฉันจะให้คนไปส่งเธอกลับบ้าน
แต่พรุ่งนี้ตอนเที่ยงจะมีคนไปรับเธอกลับมา”
“ทำไมเร็วนักละคะ”
กุนกุนถามตาใสแถมด้วยท่าทางออดอ้อน
“หรือเธอจะไม่กลับ?”
“กลับค่ะ กลับ”
กุนกุนดีใจจนลืมตัว เธอโดดตัวขึ้นมากอดคอเขาและส่งยิ้มให้
“ขอบคุณนายน้อยมากนะคะ”
“เกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน”
ฮาวเหยียนเชอถามสิ่งที่ยังค้างคาใจ
“ฉันควรจะถามคุณมากกว่าว่าเมื่อวานคุณเป็นอะไร”
“เธอไม่รู้หรือไงว่าฉันเรียกเธอให้ลงมาที่ห้องทำงาน”
“คุณเรียกฉันเมื่อไหร่กันคะ
พี่ยี่ทูเดินมาเยี่ยมฉันที่ห้องไม่เห็นบอกอะไร
ฉันเลยชวนเขาเล่นหมากรุกด้วยกันก็แค่นั้น
พอเล่นเกมส์จบเขาลุกขึ้นยืนแล้วอยู่ๆก็ล้มลงทับฉัน ตอนนั้นคุณเดินเข้ามาพอดีแล้วสั่งให้ป้าเฉินพาฉันไปขังที่ห้องมืด”
เล่าจบกุนกุนก็ทำท่าจะร้องไห้อีก
“อย่าร้องไห้นะฉันบอกเธอแล้วไง”
กุนกุนทำจมูกฟุดฟิดพยายามห้ามน้ำมูกไม่ให้ไหล
“นอนรออยู่ที่นี่นะเดี๋ยวจะมีคนพาเธอกลับบ้านคืนนี้” ฮาวเหยียนเชอสาปแช่งยี่ทูอยู่ในใจ
เมื่อฮาวเหยียนเชอทำท่าจะลุกเดินออกไปกุนกุนเลยถามว่า
“นายน้อยคุณจะไปแล้วเหรอคะ?”
“แล้วฉันไปไม่ได้หรือไง?”
ฮาวเหยียนเชอพูดจบก็ออกไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนกุนกุนเมื่อเห็นฮาวเหยียนเชอเดินออกไปก็นั่งดูโทรทัศน์รอเวลากลับบ้านอบ่างสบายใจ
P.S. ตกลงก็ต้องยอมเค้าสินะ
ทำเข้ม ทำโหดไปงั้นสิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น