Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 81
ฮาวเหยียนเชอปล่อยให้กุนกุนนวดต่อสักพักก็ลืมตาขึ้นมา
พบกับดวงตาที่แวววาวของกุนกุนพร้อมกับรอยยิ้มหวานพอดี เขาปล่อยให้เธอนวดต่อไปราวครึ่งชม.
ก่อนจะล้างยาสระผมออกให้หมดและเริ่มเป่าผมให้เจ้านายหนุ่ม
ทันใดนั้นฮาวเหยียนเชอก็ลุกจากเก้าอี้และจูงมือเธอไปที่เตียงนวด
อุ้มเธอให้ขึ้นไปนั่งโดยกักตัวเธอไว้ตรงกลางด้วยแขนทั้งสองข้าง
และเอนตัวลงจนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน
กุนกุนบ่นขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเธอยังทำภารกิจเป่าผมให้เขายังไม่เสร็จ
“นายน้อยคะ
แล้วแบบนี้ฉันจะเป่าผมให้คุณยังไงละคะ?”
ฮาวเหยียนเชอไม่ได้สนใจผมของตัวเองที่ยังเปียกชื้นอยู่
เขายื่นหน้าเข้าใช้ฟันขบกัดคางของเธอเบาๆ ก่อนจะพูดคนละเรื่องกับเธอว่า
“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้
เธอจะต้องเข้าไปที่บริษัทฮาวเหยียนกับฉัน ในฐานะเลขาส่วนตัว” เขาพูดเสียงเบาในขณะที่ยังป้วนเปี้ยนอยู่ที่คางของเธอ ประโยคบอกเล่าที่ดูเหมือนจะเป็นประโยคคำสั่งซะมากกว่าของเขา
ทำให้กุนกุนต้องดันไหล่เขาให้หลุดจากการแทะกินของเขาซะที
“ให้ฉันอยู่บ้านแล้วเรียนรู้วิธีการทำความสะอาดบ้านแทนไม่ได้เหรอคะ?”
“เธอแน่ใจเหรอว่ามีงานบ้านที่เธอสามารถทำได้”
ฮาวเหยียนเชอทำหน้าเหมือนโดนขัดใจที่กำลังตอดเล็กตอดน้อยเธอไม่เสร็จแล้วโดนขัดจังหวะ
“แน่ใจสิคะ
คุณแม่เคยบอกว่าในอดีตพวกคนที่คอยทดสอบยาพิษในอาหารเป็นคนสำคัญ”
เธอคิดถึงหน้าที่ที่เธอได้รับผิดชอบในทุกมื้ออาหารของเขา
(คิดไปเอง) กุนกุนพูดพลางทำท่าออดอ้อนด้วยการยกมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าอก
เหมือนจะขอร้องให้เขาเห็นใจ
“จริงๆนะคะ นายน้อย
คุณแม่ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ขันทีในวังจะเป็นคนทดสอบอาหารให้จักรพรรดิ
แสดงว่าหน้าที่นี้ก็ต้องมีความหมายมากๆจริงมั้ยคะ?”
“แล้วเธอเป็นขันทีพวกนั้นหรือไง?”
ฮาวเหยียนเชอนึกขันกับการเปรียบเปรยของเธอ
แถมยังทำท่าน่ารักเกินความจำเป็น
“ก็เปล่าค่ะ
แต่...แต่ฉันกับขันที พวกเราไม่มี...เอ่อ.. ไม่มีน้องชายเหมือนกันไงคะ” คำว่า น้องชาย ของเธอทำให้ฮาวเหยียนเชอต้องมองหน้าเธอชัดๆอีกทีและเห็นว่าสายตาของยัยข้าวปั้นน้อยกำลังมองไปที่ส่วนล่างของเขาอยู่
จากนั้นเส้นเลือดที่ขมับของเขาก็เต้น ตุบ ตุบ
ยัยเด็กคนนี้ไปเอาความคิดพวกนี้มาจากไหนกันนะ ใครบังอาจมาสอนเธอ
เขาขบกรามแน่นเพื่อฟังเธออธิบายต่อ
“แถม...แถมฉันยังทำอาหารได้
แต่คุณไม่ให้ฉันเข้าครัว…” ประโยคหลังของเธอเสียงเบาลงเมื่อเห็นฮาวเหยียนเชอทำหน้าเกร็งที่ใจอยากจะหยิกแก้มยุ้ยๆนั่นอย่างคันมือ
แต่แก้มของเธอที่ถึงแม้จะไม่ช้ำน่ากลัวเท่าเมื่อวานแต่ก็ยังมีรอบให้เห็นจางๆแล้วก็ได้แต่อ่อนใจ
อีกทั้งเขายังไม่อยากจะเคกหัวเธออีกแลยได้แต่เก็บความหมั่นเขี้ยวไว้
“เลิกพูดจาไร้สาระซะที”
“แต่พี่ทันยังสอนฉันมาจบเลยนะคะ”
“ที่บริษัทจะมีคนสอนงานให้เธอเอง”
“หมายความว่า
ฉันไม่ต้องเรียนที่บ้านแล้วเหรอคะ?”
“ใช่”
“แล้วของหวานล่ะคะ?
คุณจะให้ฉันกินหลังเลิกงาน เหมือนตอนหลังเลิกเรียนด้วยหรือเปล่าคะ?” ท่าทางของเธอสดใสขึ้นเล็กน้อยเมื่อคิดถึงของหวานที่เพิ่งได้กินไป
ในสายตาของฮาวเหยียนเชอตอนนี้กุนกุนช่างทำตัวเหมือนลูกหมาที่คอยกระดิกหางในขณะที่กำลังอ้อนของหวานอยู่
“มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอ”
เมื่อต่อรองเสร็จชายหนุ่มก็นึกอยากจะกินข้าวปั้นตรงหน้าขึ้นมา
เขาไม่ใช่ขันทีแน่นอนว่าตอนนี้ความรู้สึก ความต้องการของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้ฮาวเหยียนเชอต้องรีบยืดตัวให้ตรงและดึงเธอให้ลุกจากเตียง
ก่อนที่อะไรๆจะเกิดขึ้นจนเขาลุกจากเตียงนวดสปาไม่ได้
เขาเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆซึ้งกุนกุนก็เดินตามมาเป่าผมให้เขาต่อ
“นายน้อยดีที่สุดเลยค่ะ”
เธอรีบตอบตอบรับด้วยความดีใจที่อย่างน้อยของหวานเธอก็ไม่โดนงดไปด้วย
กุนกุนตั้งใจเป่าผมให้เขาโดยมีสายตาของฮาวเหยียนเชอจ้องมองทุกการเคลื่อนไหวของเธอผ่านทางกระจก
ริมฝีปากสีแดงสดราวกับผลแอปเปิ้ลนั้นช่างดึงดูดสายของเขาได้เป็นอย่างดี นี่สวรรค์คงจะลงโทษเขาให้มาตกหลุมรักเด็กโง่อย่างเธอ
เช้าวันรุ่งขึ้นฮาวเหยียนเชอยืนกำชับกุนกุนที่กำลังจะก้าวเข้าห้องน้ำด้วยท่าทีสะลึมสะลือ
“เธอมีเวลาแค่ 10
นาที ในการแต่งตัวไปทำงานนะ ถ้าช้ากว่านั้นของหวานวันนี้อด!”
คำขู่ของเขาทำให้เธอตื่นเต็มตาและรีบเข้าไปล้างหน้า
เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจนเสร็จภายใน 9 นาที
เธอรีบออกมาและถามฮาวเหยียนเชอที่นั่งรออยู่บนเตียงว่า
“ฉันทำเวลาเกิน 10
นาทีหรือเปล่าคะ?”
“ไม่เกิน”
“ฮี่ฮี่
ของหวานของฉันปลอดภัย” กุนกุนยิ้มก่อนจะลูบท้องตัวเอง
ภาพที่เธอกำลังยืนลูบท้องตัวเองอยู่นั้น
ทำให้ฮาวเหยียนเชอประสาทหลอนมองว่าเธอลูบท้องที่มีลูกของเขาอยู่แทนที่จะเป็นของหวานที่เธอนึกถึง
เมื่อกุนกุนเดินเข้าไปใกล้ฮาวเหยียนเชอจึงจะได้สติและเงยหน้ามองเธอที่ส่งยิ้มหวานมาให้
กุนกุนจับมือเขาและดึงให้ลุกขึ้นเพื่อตรงไปยังห้องอาหาร
“เดี๋ยวก่อน
เธอยังไม่ได้หวีผมเลย”
ฮาวเหยียนเชอขืนตัวเองไว้เมื่อเห็นว่าเธอรีบจนลืมหวีผม
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
เธอใช้มือสางเส้นผมตรงยาวและสีดำสนิทของเธออย่างง่ายๆ
โชคดีที่ผมเธอมีน้ำหนักมาก มันแทบจะเป็นทรงในทันทีที่ใช้มือลูบๆ
กุนกุนเงยหน้ายิ้มจนตาหวีก่อนจะพูดด้วยความภูมิใจว่า
“ผมฉันไม่ยุ่งยากหรอกค่ะ
แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว” ฮาวเหยียนเชอเลือกที่จะไม่พูดอะไรปล่อยให้เธอจูงมือเขาไปที่ห้องอาหาร
หลังมื้ออาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย
ฮาวเหยียนเชอเป็นคนขับรถพากุนกุนไปบริษัทด้วยตัวเอง เมื่อถึงตึกของบริษัทฮาวเหยียน
จังหวะที่เธอกำลังจะลงจากรถและมองไปที่ตัวอาหารอันใหญ่โตมโหฬารตรงหน้า
สีหน้าของเธอก็ตื่นตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
ฮาวเหยียนเชอลงจากรถฝั่งคนขับและเดินไปจับแขนเธอก่อนจะบอกว่า
“เข้าไปข้างในกันเถอะ”
“นายน้อยคะ
ตึกของคุณมีทั้งหมดกี่ชั้นคะ?” กุนกุนถามพลางแหงนมองไล่ไปจนคอแทบจะตั้งบนบ่า
“100 ชั้น”
สาวน้อยทำตาโตก่อนจะถามว่า “แล้ว...แล้วถ้าตึกนี้เกิดพังทลายลงมา
มันไม่ฆ่าคนเป็นร้อยเลยเหรอคะ” เธอมองหน้าเหล่าพนกงานที่ออกมาตั้งแถวยืนเรียงรายต้อนรับอยู่ที่หน้าตึก
แล้วก็นึกห่วงชีวิตและความปลอดภัยของพวกเขาจริงๆ
เจียทูและยี่ทูที่ลงมาจากรถอีกคันและยืนอยู่ข้างหลังชายหนุ่มหญิงสาว
ต่างพากันกลั้นขำสุดฤทธิ์เมื่อได้ยินความคิดที่แปลกๆจากกุนกุน
ฮาวเหยียนเชอได้แต่แค่นเสียงในลำคอ
ก่อนจับมือเธอและพอกันเดินไปตามทางที่มีพนักงานโค้งคำนำให้อยู่
เขาพาเธอตรงไปที่ลิฟท์ส่วนตัวของผู้บริหาร
พนักงานทุกคนต่างทำหน้าตกใจ
เมื่อเห็นเจ้านายของพวกเขาจับมือคนอื่นเป็นครั้งแรก
ทุกคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายผู้เย็นชากันแน่
เมื่อขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้นที่ 100
ฮาวเหยียนเชอจูงมือเธอเดินผ่านพนักงานที่บางตาลงเนื่องจากเป็นชั้นผู้บริหาร
กุนกุนตื่นตาตื่นใจไปกับทุกอย่าง โดยเฉพาะพนักงานของเขา
พวกเธอช่างสวยงามไร้ที่ติจริงๆ
“ท่านประธานฮาว”
เลขานุการหน้าห้องเขายืนขึ้นและทักทายเมื่อเห็นคณะของเจ้านายเดินมา
“อืม” ฮาวเหยียนเชอตอบเพียงสั้นๆก่อนจะพาเธอเดินเข้าไปในห้องทำงาน
ข้างในฮาวเหยียนเชอถอดเสื้อแจ็คเก็ตพาดไว้ที่เก้าอี้และนั่งลงด้วยท่าทางน่าเกรงขาม
“นายน้อยคะ
พนักงานข้างนอกนั่น เป็นเลขาฯส่วนตัวของคุณทั้งหมดเลยเหรอคะ?”
P.S. จะส่งนางเอกไปที่ทำงาน
หาเรื่องให้ตัวเองปวดหัวสินะคะ คุณเชออออ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น