Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
Credit of photos and this story
belongs to the owner
บทที่ 143
ฮาวเหยียนเชอเริ่มต้นเคี่ยวกรำให้เธอมีลูกด้วยวิธีการของเขาอีกครั้งและอีกครั้ง
ในห้องนอนไม่มีเสียงถามเจื้อยแจ้วของกุนกุนแล้ว
มีแต่เสียงสปริงของเตียงที่ดังเพราะทำงานหนักตลอดทั้งคืน
เช้าวันใหม่ที่บริษัทฮาวเหยียน
หยวนกุนกุนที่กลับไปทำงานตามปกติกำลังเดินถือแฟ้มรายงานไปยังชั้นอื่น
“พี่เฟิ่งคะ นี่สำเนารายงานล่าสุดค่ะ”
“ขอบใจจ๊ะกุนกุน พี่ซื้อซูชิมาด้วย มื้อกลางวันนี้ทานด้วยกันนะ”
“เอ่อ ฉันขอโทษจริงๆค่ะ ถ้าฉันไม่ยอมไปทานมื้อกลางวันกับเชอ
เค้าจะต้องโกรธแน่ๆ”
“เธอแน่ใจว่าไม่สนใจซูชิของพี่? นี่พี่เพิ่งจะซื้อมาเลยนะ” เฟิ่งทิงหยิบกล่องซูชิขึ้นมาโชว์ให้กุนกุนดู นั่นทำให้เธอเริ่มลังเล
“ไปกินข้าวกับพี่เถอะที่ห้องน้ำชา
เดี่ยวพี่ชงชาเขียวร้อนให้ด้วยจะได้กินซูชิคล่องคอ”
ในห้องพักเบรก มีพนักงานหญิงสองคนกำลังซุบซิบนินทาเรื่องของกุนกุนอยู่อย่างเมามันส์
“ฉันนึกไม่ออกเลยว่าคนอย่างหยวนกุนกุนมีดีอะไรนักหนา
หล่อนไม่ควรได้รับโอกาสที่จะแต่งงานกับคุณฮาวเลยด้วยซ้ำ
ฉันล่ะเสียดายจริงๆที่คุณฮาวไปแต่งงานกับผู้หญิงแบบนั้น ”
“อีกอย่างไม่ใช่แค่เป็นผู้หญิงธรรมดาอย่างเดียว แต่งงานกับคุณฮาวมาตั้ง 3
ปีละ ยังไม่ท้องซะที แบบนี้หมายความว่าเค้าอาจจะไม่ได้นอนกับหล่อน
เพราะฉะนั้นเหตุผลเดียวที่ยอมแต่งงานคงเป็นเพราะถูกใครบังคับ”
“ใครจะไปรู้
หล่อนอาจจะล่อลวงแล้วเป็นคนบังคับคุณฮาวให้แต่งงานด้วยก็ได้นะยะ”
“ผู้ชายที่ไหนจะมาตกหลุมรักผู้หญิงที่ทั้งโง่และน่าเกลียดแบบนี้ล่ะ
จริงมั้ย? ไม่แน่นะปลายปีนี้อาจจะมีข่าวว่าพวกเขาเลิกกันก็ได้
อีกอย่างผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งเก่งแบบนี้อาจจะมีเมียเก็บเมียลับอยู่ก็ได้
สำหรับเขาแล้วเรื่องแต่งงานหรือหย่าก็แค่เรื่องเล็กๆ เชื่อฉันสิ”
ผู้หญิงปากมากทั้งคู่หุบปากลงพร้อมกันทันทีที่เห็นกุนกุนเดินเข้ามา
พวกหล่อนอิจฉาเธอก็จริงแต่ก็ยังไม่อยากตกงาน เพราะฉะนั้นเลยรีบพร้อมใจกันก้าวขาออกจากห้องพักเบรกไปอย่างรวดเร็ว
จนทั้งห้องเหลือแค่เฟิ่งทิงที่ยืนตัวสั่นด้วยความโกรธและกุนกุนที่ยืนเงียบไม่พูดจา
จนคนที่ชวนมาต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง เธอวางซูชิลงบนโต๊ะและเดินไปชงชาร้อนมาให้กุนกุน
“กุนกุนฟังพี่นะ อย่าไปสนใจคำพูดพวกนั้นเก็บมาคิด
คนส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ขี้อิจฉา เพราะพวกเธอไม่มีเหมือนเธอ พวกนั้นพูดจาเสียๆหายๆเพื่อให้ตัวเองดูดีในสายตาคนอื่น”
กุนกุนรับฟังและพยักหน้ารับอย่างเงียบๆก่อนจะฝืนยิ้มกลับไป
“ฉันโอเคค่ะ
สิ่งที่พวกเขาพูดเป็นเรื่องจริง
เชอกับฉัน.....ความจริงพวกเราแตกต่างกันเหมือนท้องฟ้ากับผืนดิน
บางครั้งเวลาที่ฉันยืนอยู่ข้างเขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควร
เชอแต่งงานกับฉันก็เพราะความรับผิดชอบ แต่ฉันไม่เคยหลอกหรือล่อลวงบังคับให้เขาแต่งงานเลยนะคะ”
“กุนกุนเธอไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องนี้ พี่เข้าใจ
พี่เชื่อมั่นว่าท่านประธานนี่ล่ะที่เป็นคนวางแผนจับเธอแต่งงาน” เฟิ่งทิงตบบ่าของกุนกุนเบาๆ
“กินข้าวกันเถอะ
ถ้าท่านประธานเลือกเธอแล้วนั่นหมายความว่าเธอมีความสำคัญกับเขามาก อย่าดูถูกตัวเอง
เธอมีดีกว่าที่เธอคิด”
จากนั้นเฟิ่งทิงคีบซูชิหน้าแซลมอนให้ลงบนจานของกุนกุน
“พี่เฟิ่ง
พี่คิดว่าจะมีวันนึงที่เชอไม่ต้องการฉันอีกต่อไปมั้ยคะ?”
“กุนกุนไม่มีใครสามารถล่วงรู้หรือทำนายความรู้สึกนึกคิดของใครได้หรอกนะ
ความรักน่ะจู่ๆมันก็มา บางทีมันอาจจะไปโดยเราไม่ทันได้กระพริบตาเลยก็ได้
ท่านประธานก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนนึง ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะอ่อนโยนหรือใจดีมากแค่ไหน
แต่หัวใจของคนเราก็เปลี่ยนแปลงกันได้เสมอ
เพราะฉะนั้นเธอเองไม่ควรมาคิดมากกับเรื่องที่มันยังไม่เกิด ถ้าวันนั้นมาถึงเธอก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป
อย่าไปยึดติดเพราะนั่นเป็นการทำร้ายตัวเอง”
“พี่เฟิ่ง พี่กำลังจะบอกว่า วันนึงเชอก็อาจจะเปลี่ยนใจงั้นเหรอคะ
ฉันควรจะทำยังไงละคะ?”
“เด็กโง่ พี่หมายความว่าไม่มีใครสามารถทายอนาคตล่วงหน้าได้หรอก
เธอมีหน้าที่แค่พอใจและมีความสุขกับทุกวินาทีในตอนนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตยังมาไม่ถึง เธอก็แค่ปล่อยทุกอย่างให้มันเป็นไป
ไม่ต้องไปกังวลหรือคิดมากในสิ่งที่เธอควบคุมไม่ได้ อย่ากดดันตัวเอง เข้าใจมั้ย?”
“มีอะไรที่ฉันสามารถทำให้เชอไม่เปลี่ยนใจไปจากฉันบ้างหรือเปล่าคะ?”
“ถ้าสิ่งเธอถามมีคำตอบ
ในโลกนี้คงไม่มีใครเสียใจหรือฆ่าตัวตายเพราะความรักหรอก การได้จับมือใครบางคนไปจนวันสุดท้ายของชีวิตเป็นเรื่องที่ล้ำค่ามาก
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้พรหรือความสุขนั้น แต่พี่เชื่อว่าเธอมีเพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องกังวล”
“ทำไมละคะ?”
“ก็เพราะว่าสวรรค์มักจะรักเด็กโง่อย่างเธอไง”
กุนกุนยู่ปากและถอนหายใจออกมา
คำตอบของเฟิ่งทิงไมได้ทำให้เธอรู้สึกดีเลยสักนิด
หลังมื้อเที่ยงเสร็จ
กุนกุนรีบวิ่งกลับไปที่ห้องทำงานของสามี
ตัวเธอเองยังไม่อยากจะเชื่อว่าใช้เวลากินข้าวกับเฟิ่งทิงนานขนาดนี้ เมื่อเธอวิ่งมาถึงก็พบว่าไม่มีใครอยู่ในห้องทำงาน
เธอผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งใจและเดินไปนั่งลงที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
แต่แล้วก็สังเกตเห็นกล่องใส่ของ 2 ใบ วางอยู่บนโต๊ะทำงานของฮาวเหยียนเชอ
มีใครส่งของขวัญมาให้เขาอย่างงั้นเหรอ?
ต่อมความสงสัยกระตุ้นให้เธอเดินไปที่โต๊ะของสามี
ทำไมดูเหมือนว่ามีผู้หญิงส่งของขวัญมาให้เขา?
P.S. ไม่อยากแก้ตัวว่าหลังจากสงกรานต์ก็ไม่สบายทั้งอาทิตย์ 5555+
แปลช้า แปลติดขัด ตรงไหน กราบขออภัยมา ณ ทีนี้ นะค้า //
แหม อยากตบปากอีคนนินทาจังเลยค่ะ