Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 92
ฮาวเหยียนเชอไม่ได้ยื่นมือไปรับแหวนวงนั้น
ทำให้ฉิวลี่หลัวต้องเป็นฝ่ายวางแหวนลงบนโต๊ะทำงานของลูกชายแทน “มันเป็นของลูกนะ”
“ผมไม่เคยอยากได้มัน” เขาปรายตามองและพูดเสียงเครียด
“แต่นี่คือโชคชะตาของลูก มันถูกกำหนดไว้แล้ว” ลี่หลัวพูดปลอบอย่างใจเย็น
ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ฮาวเหยียนเชอมองฉิวลี่หลิวด้วยสายตาที่เดาความหมายไม่ออกอยู่ครู่เดียว
จากนั้นก็หันมาสบตากุนกุนที่อยู่ในอ้อมแขนเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างและหันไปหยิบแวนวงนั้นขึ้นมาวางใส่ลงในมือกุนกุนแล้วใช้มือตัวเองกุมมือเธออีกที
ฮาวเหยียนเชอประสานสายตากับกุนกุนอีกครั้งเชยคางเธอให้รับจูบจากเขา
ชายหนุ่มใช้ลิ้นเปิดปากเธอออกใช้ลอกล่อให้เธอสนใจกับรสจูบก่อนจะกัดลิ้นของตัวเองและกุนกุนจนเลือดออก
ทำให้กุนกุนต้องส่งเสียงประท้วงออกมาเพราะความเจ็บและตกใจ
เลือดของทั้งคู่ต่างผสมผสานกันจนแยกไม่ออก ฮาวเหยียนเชอค่อยๆถอนจูบออก
เช็ดเลือดที่ปากของเขาและกุนกุน เธอยืนหอบหายใจมองเขาด้วยแววตาที่สับสน
ทั้งสองคนยังคงยืนแนบชิดกัน เขายกมือของตัวเองเช็ดเลือดเมื่อสักครู่ขึ้นมาก่อนจะเขียนอักขระภาษาโบราณลงบนหน้าผากของกุนกุน
และสั่งเธอเสียงเบาว่า
“สวมแหวนวงนี้ที่นิ้วโป้งให้ฉัน”
ฮาวเหยียนเชอยื่นมือซ้ายของตัวเองขึ้นมาให้กุนกุน
สาวน้อยไม่ได้พูดอะไร
เธอก้มมองแหวนในมือสลับกับนิ้วของฮาวเหยียนเชอที่มีขนาดไม่น่าจะเข้ากันได้
เธอลังเลอยู่ชั่วครู่ในขณะที่ฮาวเหยียนเชอก็ไม่ได้เร่งรัดเธอ กุนกุนตัดสินใจสวมแหวนตามที่เขาสั่ง
เธอเบิกตาขึ้นมานิดเมื่อแหวนสามารถสวมนิ้วโป้งของเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
จากนั้นอักษรโบราณที่ฮาวเหยียนเชอเขียนบนหน้าผากเธอก็เปล่งแสงสีน้ำเงินออกมา
รวมถึงร่างกายของเธอที่ดูเหมือนจะเรืองแสงออกมา
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
แล้วตัวอักษรโบราณบนหน้าผากเธอก็จางหายไป
ฮาวเหยียนเชอดึงกุนกุนเข้ามากอดไว้แน่นและหันไปบอกพ่อกับแม่ว่า
“ตอนนี้คงไปได้แล้วสินะครับ”
“แม่อยากจะบอกว่า....” ฉิวลี่หลัวเอ่ยขึ้นมาหลังจากพิธีการสำคัญตรงหน้าเสร็จสิ้น
“ออกไปเถอะครับ”
ฮาวเหยียนเชวียที่ยืนอยู่ด้านหลังภรรยาสบตากับลูกชายและเป็นฝ่ายจูงมือเธอเดินออกจากห้องทำงานอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้กล่าวลา
หลังจากประตูปิดลงฮาวเหยียนเชอกอดหญิงสาวตรงหน้าแน่นขึ้นอีก
จนทำให้กุนกุนต้องเงยหน้าขึ้นมองทั้งๆที่ตัวเองแทบจะจมลงไปในอกของเขา
ชายหนุ่มก้มลงจูบเธออย่างลึกซึ้งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีแต่ความหวานไม่มีกลิ่นคาวเลือดอีกแล้ว
กุนกุนเขย่งตัวเพื่อรับจูบของเขาด้วยความเต็มใจ
เธอคล้องแขนรอบคอของชายหนุ่มและแนบร่างกายของตัวเองให้เข้าไปใกล้ชิดมากขึ้นจนแทบไม่มีที่ว่าง
ทั้งคู่ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านการจูบแสนหวาน
จนฮาวเหยียนเชอรู้ว่ากุนกุนเริ่มต้องการอากาศหายใจ
เขาปล่อยริมฝีปากเธอแต่ก็ยังแทะเล็มและเลียปากแดงสดราวกับผลแอปเปิ้ล
มือเรียวยังคงประคองหน้าของเธอจนกระทั่งกุนกุนหายใจเป็นปกติเธอเลยถามเสียงเบาว่า
“เมื่อกี้คุณกัดฉันทำไมคะ”
ฮาวเหยียนเชอลูบไล้แก้มนุ่มของเธอ
“เพราะเธอกล้ารับของขวัญจากผู้ชายคนอื่น
ฉันเลยต้องทำโทษ” กุนกุนกำลังจะเถียงออกไปแต่จู่ๆเธอก็รู้สึกเวียนหัวจนเซ
ชายหนุ่มรีบอุ้มร่างเล็กของเธอขึ้นมาในอ้อมแขนและเดินตรงไปที่ห้องนอนข้างๆทันที
“นายน้อย ทำไมจู่ๆฉันก็เวียนหัว” เขาวางร่างของเธอลงบนเตียงดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้ลูบศีรษะเธอและสั่งว่า
“นอนซะ” กุนกุนคว้าแขนของเขาไว้ “แต่ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวนะคะ” ฮาวเหยียนเชอพยักหน้าและล้มตัวลงนอนข้างเธอ
ในขณะที่กำลังจะดึงเธอเข้ามากอด กุนกุนก็กระเถิบตัวเข้ามาโดยอัตโนมัติ
เธอหลับตาลงเพียงครู่ก็หลับสนิททันที
ฮาวเหยียนเชอลูบหลังเธอแบบที่เค้าชอบทำเวลาต้องการปลอบเธอ
เขามองเห็นรอยเลือดภาษาโบราณบนหน้าผากเธอ
ถึงแม้ว่ามันจะเลือนรางไปหมดแล้วแต่มีเขาเพียงคนเดียวที่เห็นมัน
“เด็กโง่ตัวน้อย ต่อไปนี้อิสรภาพของฉันเป็นของเธอ” เขากระซิบข้างหูแม้จะรู้ว่าเธอไม่ได้แล้วก็ตาม
3
วันต่อมา
กุนกุนตื่นมาอีกครั้งจากการหลับลึกและรู้สึกตัวว่าเธอกลับมาที่คฤหาสน์แล้ว
เธอรุ้สึกผิดหวังนิดๆที่ลืมตาขึ้นมาแล้วไม่เห็นฮาวเหยียนเชอนอนอยู่ข้างๆ
เธอเหนียวตัวเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันจึงค่อยๆลุกจากเตียงและตรงไปอาบน้ำทันที
1
ชั่วโมงต่อมา หญิงสาวแต่งตัวเดินออกมาด้วยความสดชื่นมากขึ้น
และเมื่อเห็นว่าฮาวเหยียนเชอนั่งรออยู่ที่เตียงก็ยิ้มกว้างออกมา
“มานี่สิ” กุนกุนเดินไปที่เตียงนอนอย่างว่าง่ายพร้อมทั้งนั่งลงบนตักของชายหนุ่มก่อนจะคล้องแขนรอบตัวเขาและซุกตัวหาไออุ่นที่อกด้วยความผ่อนคลาย
“ยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกมั้ย?” เขาถามโดยที่มือเรียวก็ลูบหลังและเส้นผมยาวของเธอไปด้วย
“ฉันยังรู้สึกเวียนหัวอยู่เลยค่ะ
มันมึนๆแล้วก็ปวดตัวไปหมดแถมกระเพาะฉันยังส่งเสียงร้องประท้วงด้วย” ฮาวเหยียนเชอที่ทำตัวเป็นเก้าอี้ให้เธออยู่รู้สึกปวดใจทันทีเพราะร่างกายของเธอยังคงเจ็บปวดจากการที่ได้รับเลือดของเขาอยู่แม้จะผ่านมาแล้ว
3 วันก็ตาม
“ฉันหิวมากจริงๆนะคะ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้
เขาหยิบโทรศัพท์ข้างเตียงขึ้นมาต่อสายหาผู้ดูแลเฉิน กรอกคำสั่งไปว่า
“ป้าเฉินช่วยทำอาหารเบาๆแล้วยกมาที่นี่หน่อย….” ยังไม่ทันได้วางสายกุนกุนก็แทรกขึ้นมา
“ฉันอยากกินแบบคราวที่แล้วค่ะ”
“แบบไหน?”
“ก็แบบที่คุณเรียกว่าอาหารหมู”
ฮาวเหยียนเชอสั่งคนในสายอีกครั้งว่า
“ป้าเฉินทำซุปขาเป็ดตุ๋นใส่เต้าหู้แล้วก็โจ๊กกับแอปเปิ้ลฝานบางๆมาแล้วกัน”
P.S หนีไม่รอดแล้วล่ะกุนกุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น