Beloved little Treasure เธอคือสมบัติของผม
[English
translator thanks, trungtnguyen123.org]
บทที่ 72
คนเป็นลูกปรายตาสีม่วงของตนเองไปทางฮาวเหยียนเชวีย
แต่ยังไม่ทันได้พูดตอบโต้อะไร ฉิวลี่หลัวก็แทรกขึ้นมา
“เสี่ยวเชอ
แม่อยากได้หลาน เมื่อไหร่แม่จะได้อุ้มหลานล่ะ?”
“ถ้าแม่อยากเลี้ยงเด็ก
ผมว่าลองปรึกษาพ่อดูมั้ยครับ หึหึ”
ฮาวเหยียนเชอสวนกลับแม่ไปบ้างนั่นก็ทำให้ฉิวลี่หลัวต้องแดงขึ้นมา
ส่วนพ่อของชายหนุ่มแอบยิ้มที่มุมปาก
“เสี่ยวหลัว
พวกเราไปกันเถอะ มีใครบางคนกำลังโมโหแถมยังหวงของอีก”
“แต่ฉันอยากเจอกุนกุนก่อนนี่หน่า”
หญิงสาวคนเดียวในห้องพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกจากห้องทำงานแต่ฮาวเหยียนเชอก็เอาตัวไปบังประตูไว้ก่อนจะพูดว่า
“แม่ครับ
เธอไม่สบายอยู่ อย่าไปรบกวนเธอเลยนะ”
“เอ๊ะ
แล้วกุนกุนเป็นอะไรมากมั้ย?” ฉิวลี่หลัวยิ่งอยากไปหากุนกุนเมื่อได้ยินว่าเธอไม่สบาย
“เธอโอเคครับ
แค่ต้องนอนพักสักหน่อย” ชายหนุ่มนึกว่าพ่อกับแม่ของเขาจะกลับไปซะทีหลังจากที่เขายอม
อธิบายมายืดยาวทั้งๆที่อยากจะไปเฝ้ากุนกุนมากกว่า แต่ฉิวลี่หลัวก็พูดเรื่องที่ทำให้เขาโมโหขึ้นมาอีกจนได้
“อืม ว่าแต่เสี่ยวเชอ
พ่อกับแม่รุ้เรื่องเจียเถาแล้ว ที่พวกเรามานี่ก็เพื่อจะขอให้ลูกเลิกตามเธอ
ยกโทษให้เธอเถอะนะ แม่ว่าเจียเถาติดสินใจผิดพลาดไป”
“ไม่มาทาง”
“เสี่ยวเชอ
แม่เห็นเจียเถามาตั้งแต่เด็ก ลูกอภัยให้เธอเพื่อแม่ได้มั้ย?”
“คงจะไม่ได้หรอกครับ”
“งั้นลูกจะไม่เอาเรื่องเธอเพราะแม่เป็นคนพากุนกุนเข้ามาให้ลูก
แบบนี้ได้หรือเปล่า?” ฉิวลี่หลัวพยายามด้วยความใจเย็น
“ฮึ!! ถ้างั้นมันจะต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก” เพราะแม่ของเขาลงทุนขอร้องทำให้ฮาวเหยียนเชอต้องยอมรับอย่างไม่เต็มใจ
“แม่สัญญาว่าจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก”
เมื่อเห็นแม่ลูกตกลงกันได้ประมุขของบ้านก็เอ่ยขัดขึ้นมา
“เสี่ยวหลัว
ไปกันได้แล้ว”
ฉิวลี่หลัวที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อลูก
มองทั้งคู่อย่างชั่งใจก่อนจะหันไปพูดกับลูกชายว่า
“เสี่ยวเชอ
แม่ขอกอดลูกหน่อยได้มั้ย?”
“อืม...ครับ” หญิงสาวหันมากอดลูกชายพร้อมกับยิ้มให้
เธอดีใจมากที่เห็นลูกชายมีความรักแบบที่เธออยากให้เขามี “เสี่ยวเชอ
ดูแลกุนกุนดีดีนะ แล้วลูกจะมีความสุขเหมือนแม่”
ด้านหลังของฉิวลี่หลัวก็มีสายตาที่อาฆาตเล็กๆของฮาวเหยียนเชวียมองอยู่
ถึงแม้ว่าฮาวเหยียนเชอจะเป็นลูกชายแท้ๆของเธอก็ตาม
แต่เขาก็ไม่ชอบเท่าไหร่ที่เห็นภรรยาของตัวเองยืนกอดกับคนอื่น
ฮาวเหยียนเชวียทนมองอยู่ได้ไม่นานก็เข้าไปดึงตัวภรรยาออกมาและหายตัวไปในเงามืดทันที
ฮาวเหยียนเชอไม่สนใจคนทั้งคู่ที่จู่ๆก็จะไป
เขาเดินกลับไปที่ห้องนอนทันทีเมื่อเห็นว่ากุนกุนยังไม่ตื่นเขาก็เดินไปที่เตียงและล้มตัวลงนอนข้างๆเธอก่อนจะดึงเธอเข้ามากอดและจุมพิตที่หน้าผากเธอก่อนจะกระซิบเบาๆว่า
“กุนกุนฉันยอมยกอิสระของฉันให้เธอแล้ว
ต่อไปนี้เธอต้องเป็นของฉันคนเดียวตลอดไป ฉันจะไม่ยอมให้เธอหนีไปไหนได้อีก”
เช้าวันใหม่ กุนกุนตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรมาดันขาทีขาอ่อนของเธอ
ความจริงแล้วเธอรู้สึกทุกครั้งเวลาที่ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเขา เธอเลยตั้งใจจะปลุกเขาให้ตื่น
“นายน้อย...ฉันรู้สึกว่าอะไรๆของคุณกำลังดันอยู่ที่ขาของฉันอีกแล้วนะคะ”
ฮาวเหยียนเชอลืมตาขึ้นมาอย่างเคืองๆ
แต่เมื่อเห็นเขาตื่นกุนกุนก็ดันตัวเองขึ้นไปกอดคอเขาอย่างสนิทสนมก่อนจะใช้ใบหน้าซุกไซ้อยู่ที่หน้าอกด้วยความเคยชิน
“น้องชายของคุณมันดันขาฉันมากจนนอนไม่หลับเลย”
ชายหนุ่มต้องอดกลั้นความต้องการของตัวเองก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
เขายังกังวลกับอาการปวดท้องของเธออยู่
“ยังปวดท้องอยู่หรือเปล่า?”
ฮาวเหยียนเชอก้มหน้าถามเธอในขณะที่ยังแนบหน้าอยู่ที่อกเขาแถมยังแอบสูดดมกลิ่นตัวของเขาอีกด้วย
“ก็ยังปวดอยู่นิดหน่อยค่ะ
แต่ถ้าคุณให้ฉันกินช็อคโกแลต ฉันคิดว่าคงจะหายปวดทันที” เธอเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เขาจนลักยิ้มบุ๋มทั้งสองข้าง
แต่ก็ไม่สามารถเลี่ยงจากการโดนตีก้นได้
“เพี๊ยะ”
“ไง
ยังอยากกินอยู่อีกมั้ย หืม?”
“ไม่แล้วค่ะ” เธอบ่นอู้อี้และใช้มือนวดก้นตรงที่โดนเขาตี
ฮาวเหยียนเชอลุกจากเตียงไปห้องน้ำก่อนเป็นคนแรก
เขาปล่อยให้กุนกุนนอนขี้เกียจอยู่บนเตียง
หลังจากที่อาบน้ำเรียบร้อยแล้วก็ออกมาอุ้มยัยข้าวปั้นเข้าไปส่งไปห้องน้ำและปล่อยให้เธอทำธุระด้วยตนเองจนเสร็จ
ก่อนจะอุ้มเธอกลับมาส่งที่เตียงนอนเหมือนเดิม กุนกุนเลยถามขึ้นว่า
“วันนี้ฉันต้องลงไปเรียนหรือเปล่าคะ?”
“ไม่ต้องไป”
“แล้ววันนี้ของฉันกินพวก
Junk food ได้มั้ยคะ?”
“เธอคิดว่ายังไงล่ะ?”
“ได้ใช่มั้ยคะ?”
กุนกุนรอคำตอบด้วยอาการตื่นเต้น
“ยินดีด้วย หึหึ !”
นายน้อยยิ้มให้เธอก่อนจะเปลี่ยนจากยิ้มเป็นแยกเขี้ยวแทน “เชิญเธอหลับและฝันเอาแล้วกัน”
เขาก้มลงไปพูดตรงหน้าเธอก่อนจะยิ้มมุมปากเยาะเย้ยและเดินไปที่ประตู
“แล้วนั่น....คุณจะไปไหนคะ?”
น้ำเสียงของเธอเศร้าลงทันที
“นั่งอยู่บนเตียงไป
ไม่ต้องถาม ถ้าเธอกล้าก้าวออกมาจากเตียงฉันจะหักขาเธอซะ” หญิงสาวได้แต่เงียบและนั่งมองเขาเดินออกไปด้วยความน้อยใจ
ผ่านไปไม่นาน
ฮาวเหยียนเชอก็เดินกลับมาที่ห้องพร้อมกับถาดอาหารที่ใส่ซุปร้อนและนมอุ่นอีก 1 แก้ว
“นายน้อย !!” เธอเรียกเขาอย่างดีใจ ชายหนุ่มเดินมาวางถาดอาหารไว้ที่โต๊ะข้างเตียงก่อน
แล้วหยิบแก้วนมส่งให้เธอดื่มจนหมด
จากนั้นเขาจึงนั่งลงบนเตียงและตักซุปในด้วยป้อนเธอ
“นายน้อย
อะไรอยู่ในถ้วยคะ?”
“อาหารหมู” ฮาวเหยียนเชอตั้งใจแหย่ยัยอ้วนของเขา
เธอมองเขากลับด้วยสายตาว่างเปล่าหลังจากได้ยินคำว่าอาหารหมู
“อ้า-ปาก-ซะ-เร็วๆ”
P.S. เริ่มสงสัยว่าใครเป็นเจ้านายกันแน่ตอนนี้
เล่นบริการดีขนาดเน้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น